All NEW Mercedes-Benz GLC ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกัน และมีการแชร์ขุมพลังร่วมกันกับ Mercedes-Benz C-Class (W206) เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในตลาดโลก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุด Mercedes-Benz (ประเทศไทย) เตรียมเปิดตัว All NEW Merecdes-Benz GLC รหัสตัวถัง X254 ในประเทศไทย วันที่ 10 สิงหาคม 2023 โดยรหัสขุมพลังที่คาดว่าจะถูกนำมาประเดิมทำตลาดในไทย นั่นก็คือ GLC 350 e Plug-in Hybrid ขุมพลังเดียวกันกับ C 350 e (W206) นั่นเอง
ข้อมูลเบื้องต้นของ All NEW Mercedes-Benz GLC มีดังนี้
ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว 4,716 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,648 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,888 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวรถ Kerb Weight 1,925 – 2,415 กิโลกรัม
- ความจุห้องสัมภาระ 455 ลิตร
งานออกแบบภายนอกอ้างอิงแนวทางจาก C-Class (W206) ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความโมเดิร์น ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นทุกมิติ โดยเฉพาะความยาวที่เพิ่มขึ้นกว่า 6 เซนติเมตร ด้านข้างยังคงใช้มือเปิดประตูแบบดึงเปิดเหมือน Mercedes รุ่นอื่นๆ ในขณะที่คู่แข่งทยอยใช้แบบเรียบเนียนไปกับตัวถัง กระจกหน้าต่างยังคงความโปร่งและให้ทัศนวิสัยที่ดีกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไฟท้าย LED Tube แบบ 2 ชิ้นเหมือนรุ่นปัจจุบัน แต่เปลี่ยนรายละเอียดของไฟให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
ไฟหน้าขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับกระจังหน้าทรงเดิม แต่เปลี่ยนรายละเอียดภายในกระจัง ช่องดักลมรูปทรงคล้ายของ C-Class รุ่นใหม่ ทำให้ด้านหน้าดูมีมิติกว่ารุ่นปัจจุบัน กระจังหน้าสำหรับรุ่น AMG Line ออกแบบให้มีตราดาว 3 แฉกดวงเล็กๆ เป็นลายกระจัง
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมงานออกแบบแนวทางเดียวกับ C-Class เช่นเคย ด้วยการใช้คอนโซลแบบ Open space แยกส่วนชั้นบนและล่างอย่างชัดเจน ทำให้ห้องโดยสารด้านหน้าโปร่งโล่ง และมาพร้อมกับจอ Infotainment ระบบปฏิบัติการ MBUX 3.0 แนวตั้ง ขนาด 11.9 นิ้ว ปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ มี Discreet, Sporty และ Classic จอมาตรวัดผู้ขับขี่ Full digital ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Wireless Charging สำหรับ Smartphone
เบาะนั่งปรับปรุงใหม่ ขยายขนาด รองรับสรีระได้ดียิ่งขึ้นและเปลี่ยนทรงหมอนรองศีรษะให้รองรับการกระแทกเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง ติดตั้งระบบอุ่นเบาะคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน วัสดุหุ้มเบาะมีให้เลือกทั้ง หนังสังเคราะห์ และหนัง Nappa พร้อมวัสดุตกแต่งทำจากอลูมิเนียมลายไม้ หรืออลูมิเนียม
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain
GLC 350 e Plug-in Hybrid
เครื่องยนต์รหัส M254 PHEV เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 129 แรงม้า 440 นิวตันเมตร กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง
แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion ความจุ 25.4 kWh ช่องชาร์จไฟเป็นแบบ Type 2 และ CCS รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 55 kW
ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.1 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 245 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน อยู่ที่ 100 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
- ความเร็วสูงสุดเมื่อวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน อยู่ที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระยะเวลาชาร์จด้วยไฟฟ้า AC จาก 0-100% ภายใน 2 ชั่วโมง
- ระยะเวลาชาร์จด้วยไฟฟ้า DC Fast Charge จาก 0-80% ภายใน 20 นาที
ระบบบังคับเลี้ยว
Steering Wheel
ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้าผสมไฮดรอลิค Electromechanical Direct Power Steering ทำงานร่วมกับระบบเลี้ยว 4 ล้อ ซึ่งล้อหลังจะสามารถเลี้ยวได้ถึง 4.5 องศา ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในช่วงความเร็วต่ำ ตลอดจนเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวในย่านความเร็วสูง
ระบบกันสะเทือน
Suspension
- ด้านหน้า เป็นแบบอิสระ Four-link steel Suspension พร้อมระบบปรับระดับความหนืดช็อกอัพ Selective Damping System
- ด้านหลัง เป็นแบบอิสระ Multi-link
ระบบห้ามล้อ
Brake
ระบบห้ามล้อเป็นจานเบรกทั้ง 4 ล้อ
- จานเบรกคู่หน้า เป็นแบบมีครีบและรูระบายความร้อน
- จานเบรกคู่หลัง เป็นแบบมีครีบและรูระบายความร้อน
เสริมการทำงานด้วยระบบป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking System ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist ระบบช่วยการทรงตัว ESP (Electronic Stability Program) และเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อม Auto Hold
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่
Safety System & Driving Assistance
ระบบความปลอดภัย คาดว่าจะมีการติดตั้งมาให้อย่างเต็มพิกัดเช่นเดียวกับ C 350 e ดังนี้
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตําแหน่ง สําหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า สําหรับผู้ขับขี่
- เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด
- โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti – lock Braking System)
- ระบบเบรก Adaptive Brake พร้อมฟังก์ชัน Hold และ Hill -Start Assist
- ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light)
- ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist)
- ระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise control) และระบบจํากัดความเร็ว (Speedtronic)
- ระบบเตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (Assyst service interval indicator)
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attension Assyst)
- ระบบช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with ParkTronic)
- ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist Distronic)
- ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร (Active Lance Keeping Assist)
- กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยรถ (Reversing camera)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)
- ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning Function)
- ระบบแจ้งเตือนสถานะเข็มขัดนิรภัยสําหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ข้อมูลเพิ่มเติมของ All NEW Merecdes-Benz GLC เวอร์ชั่นไทย สามารถติดตามได้ทาง www.Headlightmag.com
แสดงความเห็นได้ที่นี่ Click Here