Mercedes-Benz )Thailand) ประกาศยอดขายรถยนต์ในปี 2010 สรุปว่ายังสามารถครองความเป็นที่หนึ่ง
ของตลาดรถหรูในเมืองไทยเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน ด้วยยอดขายที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดของ
ตลาดรถยนต์หรูได้ถึง 48% หรือคิดเป็นยอดจำหน่ายรวม 4,748 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23%
โดยในปีที่ผ่านมา มีการเติบโตในทุกกลุ่มตลาด และยังเป็นผู้นำตลาดในเซ็กเมนต์หลักอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
C-, E- และ S-Class โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• C-Class, มียอดขาย 1,748 คันคิดเป็น 48.5% ของส่วนแบ่งตลาด C-segment, เพิ่มขึ้น 3 %
• E-Class, มียอดขาย 2,600 คันคิดเป็น 65 % ของส่วนแบ่งตลาด E-segment, เพิ่มขึ้น 48 %
• S-Class, มียอดขาย 362 คัน คิดเป็น 42.7% ของส่วนแบ่งตลาด S-segment, เพิ่มขึ้น 6 %
• B/M/G/R-Class, มียอดขาย 38 คัน คิดเป็น 2.6% ของส่วนแบ่งตลาด
ที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยการนำเสนอยนตรกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย อาทิ
B-Class, ML-, E-Class Coupé และ Cabriolet, SL-, CLS-, SLK-Class ไปจนถึงรุ่น R-Class ที่เพิ่งเปิดตัวไป
ล่าสุด รวมถึง SLS AMG ซึ่งเป็นรถหรูระดับซุปเปอร์สปอร์ตคาร์ ทำให้ตื่นเต้นและได้รับความสนใจมากขึ้น
ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟ์เลอร์ ประธานบริหาร บริษัท Mercedes-Bnez (Thailand) จำกัด กล่าวว่า
“บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เรามีความยินดีเป็น
อย่างยิ่งที่สามารถรักษาอันดับผู้นำในตลาด ไม่ใช่เพียงแต่ในด้านยอดขายโดยรวมเท่านั้น แต่เรายังเป็นผู้นำ
ในแต่ละเซ็กเม้นต์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเซ็กเม้นต์ C-, E- และ S-Class โดยมียอดขายในช่วงไตรมาสที่ 4 สูงกว่า
ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านั้นอย่างเห็นได้ชัด ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดจำหน่าย
อันโดดเด่นจากรุ่น E -Class โฉมใหม่ และ C–Class“.
“การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือ ปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของบริษัท เราได้สร้างความประทับใจ
ให้กับลูกค้าผ่านการบริการหลังการขาย การใส่ใจและดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ รวมถึงการสร้างความประทับใจใน
ตัวรถยนต์ที่สามารถสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของ ผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดนี้คือมาตรฐานการ
ให้บริการของเรา
ลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรง และเป็นที่แน่นอนว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์จะยังคงสานต่อ
ความมุ่งมั่นสู่อนาคตอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากความพึงพอใจจากลูกค้าถือเป็นเครื่องสะท้อนที่ดีที่สุดถึงการ
มีสัมพันธภาพที่ดีร่วมกัน” ศาสตราจารย์ ดร.เพาฟ์เลอร์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร. เพาฟ์เลอร์ กล่าวถึงแนวโน้มของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปี 2011 ไว้ว่า “คาดว่า
จะมีแนวโน้มที่ดีสำหรับรถยนต์ Mecedes-Benz เลยทีเดียวเพราะปี 2011 ถือเป็นปีพิเศษ ครบรอบ 125 ปี
ของรถยนต์ Mecedes-Benz ทั่วโลก เป็นวันที่ Carl Benz ได้ยื่นจดสิทธิบัตรรถคันแรกของโลก ณ กรุงเบอร์ลิน
ประเทศเยอรมนีเมื่อวันที่ 29 มกราคม ปี ค.ศ. 1886 แน่นอนว่าเราจะมีการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด
ที่เพียบพร้อมด้วยดีไซน์และเครื่องยนต์ใหม่ๆ แบบหลากหลายขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า
ด้วยองค์ประกอบด้านการออกแบบอันน่าหลงใหลและทันสมัย พร้อมด้วยคุณภาพอันเป็นเลิศ และมีมาตรฐาน
ความปลอดภัยสูง และที่สำคัญต้องโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะของรถด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2011 นี้
จะเป็นตัวแทนที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ Mecedes-Benz ไม่ว่าจะเป็นด้านของความสมบูรณ์แบบ (Perfection)
ความงดงามน่าหลงใหล (Fascination) และความรับผิดชอบ (Responsibility) ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างการเติบโต
ให้กับยอดขายของเราแน่นอน โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะได้รับการเปิดตัวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจาก
รุ่น CL-Class ซึ่งจะมีการเปิดตัวในต้นเดือนหน้าที่จะถึงนี้
นอกเหนือจากการความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆนี้ Mecedes-Benz ยังคงนำเสนอเทคโนโลยีและ
นวัตกรรมยานยนต์โดยเฉพาะนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด BlueEFFICENCY
ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีแบบ CDI, NGT (ก๊าซธรรมชาติ) และ CGI ซึ่งปัจจุบัน
สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ลูกค้าให้
มากที่สุดและยังเป็นการช่วยลดมลภาวะพร้อมกับรักษาสิ่งแวดล้อม อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ
Mecedes-Benz เพื่อสร้างการขับเคลื่อนสู่อนาคตอย่างยั่งยืนอีกด้วย”
——————————————–///———————————————–