วันนี้ที่รอคอย !! วันแห่งความคาดหวังโครงการ Volkswagen New Midsize Sedan หรือ NMS ซีดานขนาดใหญ่ท้าชน Toyota Camry ว่าจะโดนใจลูกค้าชาวอเมริกันจนทำยอดขายเป็นกอบเป็นกำให้แก่ Volkswagen ในภูมิภาคอเมริกาเหนือได้หรือไม่
ชื่อเครื่องหมายทางการค้าของรถ NMS ก็คือ Volkswagen Passat ว่าง่าย ๆ มันก็คือซีดานใหญ่สำหรับตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะเพื่อมาแทนที่ Passat โฉมปัจจุบันที่ในยุโรปยังลากขายกันต่อไปนั่นเอง งานนี้ Volkswagen ถึงขั้นลงทุนพัฒนาแยกออกจากกันขนาดนี้คงหมายมั่นปั้นมือยอดขายอย่างแน่นอน เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่ารสนิยมบริโภครถซีดาน D-segment ระหว่างชาวอเมริกันและชาวยุโรปแตกต่างกันมาก
Volkswagen Passat US Version ถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรในประเทศเยอรมนี โดยนำข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าชาวอเมริกันมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาโดยเฉพาะ ทั้งขนาดตัวถัง การบังคับควบคุมและการขับขี่
ดีไซน์ภายนอก Volkswagen อ้างเป็นมันเป็นรถที่มีสัดส่วนสมดุล มีเอกลักษณ์ไร้กาลเวลา สะท้อนความโดดเด่นในการออกแบบสไตล์ Volkswagen DNA โดยมี Mr. Walter de Silva ผู้กุมบังเหียนการออกแบบแบรนด์ Volkswagen ทั้งหมด
ด้านหน้าดูคล้าย ๆ Volkswagen Jetta ไม่น้อย แต่ให้ความรู้สึกหรูหรากว่าเล็กน้อย จุดเด่นของการออกแบบคงหนีไม่พ้นเส้นสายด้านข้างตัวถังที่คมสันอย่างเห็นชัดเสมือนมีมัดกล้ามเนื้อ บั้นท้ายน่าจะได้รับอิทธิพลจาก Audi บ้างไม่มากก็น้อย โดยรวมก็ออกมาแนวเส้นสายสะอาดตา ให้ความรู้สึกพิเศษและดูหรูหรากว่าที่เคยเป็น แม้จะให้ความรู้สึกว่ามันคือ Jetta ขยายร่างก็ตาม
ภายในห้องโดยสาร Volkswagen เคลมว่าการออกแบบดูมีราคาค่างวดเหมือนรถที่มีราคาแพงกว่ามาก ดีไซน์ดูสะอาดตา, สมส่วนและเหมาะสมต่อการใช้งานจริง ส่วนประกอบภายในห้องโดยสารมีคุณภาพเทียบเท่ากับรถราคาแพงของตนเอง อาทิ การประดับโครเมี่ยมบางส่วน เป็นต้น
จุดเด่นของภายในห้องโดยสารที่สามารถนำมาเกทับคู่แข่งได้นั่นก็คือ เนื้อที่วางขาผู้โดยสารตอนหลังกว้างที่สุดในรถระดับเดียวกัน คงเพราะได้อานิสงฆ์จากฐานล้อที่ยาวระดับ 2,800 มม. จนทำให้มีขนาดตัวถังใหญ่ยาว 4,860 มม. ไม่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นมากนัก
เครื่องยนต์กลไก Volkswagen จัดชุดเต็มสำหรับชาวอเมริกันจริง ๆ ด้วยเครื่องยนต์รุ่นล่างสุดเบนซิน 5 สูบ 2.5 ลิตร 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 24.24 กิโลกรัมเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือก
เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.6 ลิตร 280 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.24 กิโลกรัมเมตร มาพร้อมกับเกียร์ DSG 6 จังหวะ ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 28 MPG หรือ 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร
ที่สำคัญ Volkswagen เล็งเห็นการขยายตัวตลาดรถยนต์นั่งดีเซลในสหรัฐอเมริกาแล้วจึงส่งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 32.32 กิโลกรัมเมตร เครื่องตัวนี้มีอัตราสิ้นเปลืองน่าพอใจมากถึง 18.28 กิโลกรัมเมตร หรือหากคิดระยะทางวิ่งสูงสุดเฉลี่ยต่อน้ำมัน 1 ถัง รถคันนี้สามารถวิ่งได้ถึง 1,287 กม. แม้จะวิ่งได้ไม่ทั่วไทย แต่แค่นี้ก็ประหยัดมากแล้ว
กำหนดระเบิดศึกซีดาน D-segment ในตลาดสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปีนี้ครับ