ทางสำนักข่าว Bloomberg ได้รับรายงานฉบับแปลจากสำนักทนายความในประเทศเลบานอน อ้างถึงการกระทำของ Nissan ต่อ Carlos Ghosn อย่างไม่เป็นธรรมหลังจากมีข้อพิพาทครั้งใหญ่จนกลายเป็นมหากาพย์ให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันไปมา รวมไปถึงการสืบสาวผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการทั้งหมด ในครั้งนี้ Ghosn ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนถูกผู้บริหารของ Nissan ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดดังกล่าวนี้ ก่อนที่จะรวมหัวกันบีบให้ตนออกจากตำแหน่งด้วยขบวนการบางอย่างที่ไม่ชอบธรรม จึงเป็นที่มาของการเรียกร้องค่าเสียหายคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น 588 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในส่วนของค่าเสียหายโดยรวม และ 500 เหรียญสหรัฐฯ ในส่วนค่าเสียหายเชิงลงโทษ
หากย้อนเรื่องราวไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2020 Ghosn ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกในการแถลงข่าวที่เมือง Beirut หลังจากหลบหนีจากประเทศญี่ปุ่นไปยังประเทศเลบานอนได้สำเร็จ ก่อนที่จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก Nissan ในเวลาต่อมา โดยสรรพากรญี่ปุ่นได้ยื่นฟ้อง Ghosn จากการโกงเงินบริษัทเอาไปใช้ผลประโยชน์ส่วนตน
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างของ Ghosn ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน หลังจากทางการของแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้องได้ทยอยสืบสวนสอบสวนเรื่องราวที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจากทั้งหลายๆ ฝ่าย และยังมีทางการจากหลายประเทศที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ประเทศญี่ปุ่น โดยทางฝรั่งเศสเองก็มีกรณีพิพาทฟ้องร้อง Ghosn นับตั้งแต่ยังอยู่ Renault ที่นำเงินส่วนหนึ่งขอบริษัทมูลค่ากว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปใช้ในการส่วนตัวรวมไปถึงซื้อเรือยอชต์
อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาททั้งหมดนี้ ยังได้รับการไต่สวนในประเทศเลบานอน ที่ซึ่ง Carlos Ghosn ถือสัญชาติและพำนักอาศัยในปัจจุบัน ที่นอกเหนือจะเป็นการลี้ภัยจากคดีอื้อฉาวต่างๆ เหล่านี้แล้ว ยังมีการใช้สำนักทนายความท้องถิ่นเพื่อต่อกรกับคดีจากทั้งญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
ที่มา: Roadandtrack