หลังจากมีภาพหลุดของรถทดสอบที่ยังคงพรางตัวอย่างแน่นหนาจากสนาม Nurburgring เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยได้รับการถ่ายทอดเส้นสายงานออกแบบจากรถต้นแบบ Prologue concept อย่างไม่ผิดเพี้ยนไปมากนัก โดยได้มีการปรับรายละเอียดให้เหมาะสมกับการเป็นรถยนต์เวอร์ชั่นวางจำหน่ายจริงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมือเปิดประตูบ้านคู่หลังที่ถูกเปลี่ยนจากตำแหน่งติดตั้งบริเวณเสา C มาเป็นแบบซ่อนอยู่กับตัวถังบนเปลือกประตูทั้ง 4 บาน ตามสมัยนิยม

 

โดยใน Teasers แรกนี้ Toyota ได้เผยให้เห็นถึงงานออกแบบไฟท้ายที่แตกต่างจากรุ่นปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ด้วยไฟ LED bar แบบยาว พร้อมตัวอักษร Toyota C-HR อยู่บริเวณกลางตัวรถ ซึ่งรายละเอียดตรงนี้นับว่าเป็นความท้าทายใหม่ของงานออกแบบ ที่ทำให้แตกต่างกับรุ่นปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์เส้นไฟ LED แบบ 3 ชั้น เพียงแต่ได้เปลี่ยนรูปทรงจากตัว C สุดเฉี่ยว มาเป็น ไฟแนวยามตามสมัยนิยม

 

งานออกแบบของรุ่นที่ 2 ของ C-HR นี้ ได้รับการรังสรรค์จากทีมออกแบบที่สตูดิโอในภูมิภาคยุโรป เนื่องจากต้องการที่จะเจาะตลาดยุโรปอย่างจริงจัง และก็เป็นฐานลูกค้าหลักของรุ่นแรกที่สร้างยอดขายจนสามารถทำให้ทีมผู้บริหารไฟเขียวให้สร้างรุ่นที่ 2 นี้ได้

อย่างไรก็ตาม งานออกแบบด้านท้ายยังคงเป็นข้อกังขาในส่วนของการติดตั้งโลโก้แบรนด์และรุ่น ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปัจจุบันให้ดูมินิมอลและลุคคลีนมากขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อ Toyota ต้องการปรับลุคให้มีความโฉบเฉี่ยวและทันสมัย โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงจากงานออกแบบรุ่นอื่นๆ ในค่ายแต่อย่างใด โดยเฉพาะด้านหน้าที่ใช้รูปทรงฉลามหัวค้อน พร้อมไฟหน้าตัว C ที่อาจไม่ความคล้ายคลึงกับ Prius รุ่นที่ 5 ล่าสุด

 

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ขุมพลัง ที่แต่เดิมมีเพียงเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมทางเลือกระบบ Full hybrid ภายใต้เทคโนโลยี Dynamic force แต่สำหรับรุ่นใหม่นี้ ได้รับการยืนยันจากทาง Toyota แล้วว่า จะมาพร้อมกับทางเลือก Plug-in hybrid โดยใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานในยุโรป โดยจะจำหน่ายควบคู่ไปกับขุมพลังแบบ full hybrid

กำหนดการเปิดตัวของ C-HR จะเริ่มขึ้นที่แรกในภูมิภาคยุโรป ในวันที่ 26 มิถุนายน 2023 นี้ โดยจะพร้อมส่งมอบภายในสิ้นปี โดยที่จะนำไปเปิดตัวในอเมริกาเหนือในภายหลัง หากมีข้อมูลเพิ่มเติมทางทีมงาน Headlightmag จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา: Motor1