ในวันเดียวกันกับการเปิดตัว GX ทาง Lexus ก็ได้เปิดตัว TX รถ SUV แบบ 3 แถวที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานรถยนต์นั่ง หรือแท้จริงก็คือฝาแฝดของ Toyota Grand Highlander ตามที่มีข่าวหลุดมาก่อนหน้านี้นั่นเอง ซึ่ง Lexus เคยกล่าวไว้ก่อนหน้าว่าจะมีการเปิดตัวรถ SUV ที่มาทดแทน RX L ที่สร้างขึ้นบน GA-K platform ซึ่งจะขยายขนาดตัวถังใหญ่ขึ้นพอสมควร เพื่อให้รองรับตลาดรถ 3 แถว ขนาดกลางที่กำลังเป็นที่นิยมในอเมริกาเหนือ

 

งานออกแบบของ TX มีการนำเส้นสายด้านหน้าจาก RX รุ่นล่าสุดมาปรับใช้ ตั้งแต่กระจังหน้าแบบ Spindle grill ที่ประกอบไปด้วยเส้นสายพลิ้วไหว ซึ่งในครั้งนี้ Lexus เรียกมันว่า “Unified Grille” ที่เป็นการเชื่อมต่อกระจังหน้ากับไฟหน้าทรงเฉี่ยวตามแบบฉบับธีมดีไซน์ยุคใหม่ของค่าย ขณะที่ด้านข้างออกแบบให้เป็น Floating roof เพื่อสร้างความแตกต่างกับ Grand Highlander ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้าไม่นานนัก ขณะที่ด้านท้ายเปลี่ยนมาใช้แนวทางการออกแบบของ Lexus เต็มพิกัด โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED แบบยาวตลอดความกว้างตัวถัง พร้อมชื่อแบรนด์ Lexus เช่นเดียวกับ NX และ RX ใหม่

TX แบ่งการตกแต่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ Standard Premium Luxury และ F Sport Performance ซึ่ง 3 รุ่นแรกจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วเป็นมาตรฐาน ขณะที่รุ่นตกแต่งสปอร์ตอย่าง F Sport Performance จะได้รับการติดตั้งชุดแต่งและชิ้นส่วนตัวถังเฉพาะรุ่น ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของกระจังหน้า ชุดแต่งรอบคัน ตลอดจนลายของล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วรมดำ

 

สีตัวถังที่มีให้เลือกตั้งแต่ สีเทา Cloudburst Gray สีขาว Wind Chill Pearl สีดำ Caviar สีแดง Matador Red Mica สีน้ำเงิน Nightfall Mica สีเทานม Incognito และสีเงิน Celestial Silver Metallic

มิติตัวรถ

  • ความยาว  5,160 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง  1,990 มิลลิเมตร
  • ความสูง  1,780 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ  2,950 มิลลิเมตร

 

ภายในมาพร้อมกับระบบความบันเทิงครบครัน เครื่องเสียงจำนวนกว่า 21 ลำโพง จาก Mark Levinson เติมเต็มความสะดวกสบายของผู้โดยสารด้วยช่องชาร์จกว่า 7 ตำแหน่ง รวมไปถึงช่อง Power outlet ไฟ AC กว่า 3 ตำแหน่ง สำหรับการชาร์จ Laptop นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับจอกลางขนาด 12.3 และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

ในส่วนของเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถเลือกได้ระหว่างเบาะแบบแยกหรือ Captain seat เพื่อให้กลายเป็นรถ 6 ที่นั่ง หรือเป็นแบบแถวยาวที่สามารถปรับพับได้ในสัดส่วน 60/40 นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้งคอนโซลระหว่างเบาะนั่งแถวที่ 2 สำหรับวางแก้วน้ำหรือสัมภาระเล็กๆ น้อยๆ ตามต้องการ

 

ขุมพลังที่มีให้เลือกมากถึง 3 แบบ ได้แก่

รุ่นเครื่องยนต์เบนซินปกติ TX 350

เครื่องยนต์เบนซินรหัส รหัส T24A-FTS 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 275 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

รุ่นเครื่องยนต์ Hybrid TX 500h

เครื่องยนต์เบนซินรหัส รหัส T24A-FTS 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบ Full-hybrid กำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct shift 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Direct4 AWD

รุ่น Plug-in TX 550h+

เครื่องยนต์รหัส 2GR-FXS เบนซิน V6 3.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบ (Plug-in Hybrid) และ และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กำลังสูงสุด 406 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ DIRECT4 AWD ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนเป็นระยะทางกว่า 53 กิโลเมตร

ทั้งนี้ Lexus จะผลิต TX ในโรงงานที่ตั้งอยู่ในมลรัฐ Indiana โดยจะพร้อมส่งมอบ TX 350 และ 500h ก่อนภายในเดือนกันยายน 2023 นี้ ก่อนที่จะตามมาด้วย TX 550h+ ในช่ววงสิ้นปีนี้

ที่มา: Motor1