หลังจากปล่อยทีเซอร์ให้รอเก้อกันอยู่หลายเดือน ก็ถึงคราวเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรถ Hatchback สร้างชื่อของแบรนด์ Mitsubishi อย่าง Colt ที่เป็นหนึ่งในรถคนเมืองในยุค 90 โดยในครั้งนี้กลับมาใหม่ในรูปแบบฝาแฝดของ Renault Clio ที่ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานร่วมกัน ภายใต้ความร่วมมือของ  Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance หรือ CMF-B platform ในรูปแบบรถ Hatchback 5 ประตู ที่อ้างอิงงานวิศวกรรมหลังจาก Renault โดยจะผลิตขึ้นที่โรงงานของ Renault เช่นเดียวกัน ที่เมือง Bursa ประเทศตุรกี ซึ่งจะเริ่มไฟเขียวสายพานการผลิตในเดือนตุลาคม 2023 นี้

 

Colt รุ่นใหม่นี้ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 และจะวางจำหน่ายแต่เพียงภูมิภาคยุโรปเท่านั้น หลังจากหายหน้าหายตาไปนานกว่า 9 ปี โดยในครั้งนี้ได้ขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า และได้ทำการเปลี่ยนโฉมจาก Clio ให้เป็นเส้นสายในรูปแบบธีม Dynamic Shield ของค่าย Mitsubishi ที่ใช้ไฟหน้าทรงเฉี่ยวแบบ Full LED พร้อมด้วยไฟ DRL ตรงตัว L เสริมความโดดเด่น ขณะที่กันชนหน้าก็ได้รับรายละเอียดและติดตั้งโลโก้ขนาดใหญ่

ด้านข้างยังคงไว้ซึ่งเส้นสายของ Renault Clio ไม่ผิดเพี้ยน อย่างไรก็ตาม ด้านฝากระโปรงท้ายยังมาพร้อมโลโก้ในรูปแบบตัวอักษร MITSUBISHI และได้ติดตั้งกล้องมองหลังแทนที่โลโก้ Renault ขณะที่กันชนท้ายและไฟท้ายยังคงใช้ร่วมกันกับ Clio

 

ทางด้านการตกแต่งภายในห้องโดยสาร นับว่ามีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดจาก Colt รุ่นก่อนหน้าพอสมควร เนื่องจากมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Smartphone-link Display Audio (SDA) พร้อมจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือสามารถอัพเกรดเป็นขนาด 9.3 นิ้วได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบจัดการการขับขี่ Multi-Sense system ที่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้หลากหลาย ได้แก่ My Sense Sport หรือ Eco mode ที่สามารถปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบบังคับเลี้ยว รวมไปถึงการแสดงผลของไฟ Ambient light นอกจากนี้ยังสามารถเลือกติดตั้งระบบเครื่องเสียงจาก Bose ได้อีกด้วย รวมไปถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดที่สามารถเลือกติดตั้งได้ตามแพ็คเกจ

 

ขุมพลังเริ่มต้นของ Colt ประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 66 แรงม้า แรงบิดสูงสุด และสามารถอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า

โดยไฮไลท์ได้แก่เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวมสูงสุด 141 แรงม้า ให้กำลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ความจุ 1.2 kWh ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 9.3 วินาที

ระบบช่วยเหลือความปลอดภัยที่ติดตั้งมาเป็นแพ็คเกจ ได้แก่

  •  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control with Stop & Go (ACC)
  • ระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเลนLane Departure Prevention (LDP)
  • ระบบช่วยนำรถเข้าจอด Easy Park Assist
  • ระบบป้องกันการชนด้านหน้า Forward Collision Mitigation system (FCM)
  • ระบบเตือนรถออกนอกเลนLane Departure Warning (LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
  • ระบบช่วยตรวจจับป้ายสัญญาณจราจร Traffic Sign Recognition system (TSR)
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
  • ระบบเตือนวัตถุกีดขวางขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)

ที่มา: Mitsubishi