ราคาอย่างเป็นทางการ Toyota Corolla Altis (MY2023)

  • Corolla Altis 1.6 G : 894,000 บาท
  • Corolla Altis 1.8 Sport : 979,000 บาท
  • Corolla Altis HEV Premium : 1,009,000 บาท
  • Corolla Altis HEV GR Sport : 1,129,000 บาท

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty

  • ฟรีค่าแรงเช็คระยะ นาน 5 ปี
  • รับประกันคุณภาพรถใหม่ Warranty 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • รับประกันระบบ Hybrid 5 ปี  (เฉพาะรุ่น HEV Premium และ HEV GR Sport)
  • รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี (เฉพาะรุ่น HEV Premium และ HEV GR Sport)

 

ความเปลี่ยนแปลงของ Toyota Corolla Altis MY2023 มีดังนี้ 

รุ่น 1.6 G

  • ปรับดีไซน์ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่
  • เพิ่มกล้องมองหลัง
  • เพิ่มเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • ปรับหน้าจอกลางเป็นแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • เพิ่มระบบ T-Connect
  • ปรับลดลำโพง 6 ตำแหน่ง เหลือ 4 ตำแหน่ง
  • เพิ่มช่องชาร์จไฟด้านหลัง USB Type-C 2 ตำแหน่ง
  • เพิ่มช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
  • เพิ่มฟังก์ชั่นการพับเบาะหลัง 60 : 40
  • ราคาเพิ่มขึ้น 15,000 บาท

 

รุ่น 1.8 Sport

  • ปรับกระจังหน้า ดีไซน์แบบ Polygon
  • เพิ่มไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • เพิ่มการตกแต่งโครเมียม บริเวณกรอบไฟตัดหมอก
  • ปรับดีไซน์ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่
  • ปรับหน้าจอกลางเป็นแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • เพิ่มช่องชาร์จไฟด้านหลัง USB Type-C 2 ตำแหน่ง
  • เพิ่มระบบความปลอดภัย ​Toyota Safety Sense
    • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed Range
    • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
    • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre Collision System)
    • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA (Lane Departure Alert with Steering Assist)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA (Lane Tracing Assist)
  • ตัดแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
  • ตัดไฟส่องสว่างบริเวณแผงแดดคู่หน้า
  • ราคาเพิ่มขึ้น 15,000 บาท

 

รุ่น HEV Premium

  • ปรับกระจังหน้า ดีไซน์แบบ Polygon
  • เพิ่มไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • เพิ่มการตกแต่งโครเมียม บริเวณกรอบไฟตัดหมอก
  • ปรับดีไซน์ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่
  • ปรับหน้าจอกลางเป็นแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • เพิ่มช่องชาร์จไฟด้านหลัง USB Type-C 2 ตำแหน่ง
  • เพิ่มระบบความปลอดภัย ​Toyota Safety Sense
    • ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed Range
    • ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
    • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS (Pre Collision System)
    • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA (Lane Departure Alert with Steering Assist)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA (Lane Tracing Assist)
  • ตัดแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
  • ตัดไฟส่องสว่างบริเวณแผงบังแดดคู่หน้า
  • ตัดกระจกมองข้างปรับมุมอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse Link)
  • ราคาเพิ่มขึ้น 15,000 บาท

 

รุ่น HEV GR Sport

  • ปรับหน้าจอชุดมาตรวัดเป็นแบบดิจิตอล ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับธีมดีไซน์ได้ 4 รูปแบบ
    • Casual
    • Smart
    • Tough
    • Sporty
  • ปรับการแสดงผล Head-up Display ใหม่
  • ปรับหน้าจอกลางเป็นแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • เพิ่มช่องชาร์จไฟด้านหลัง USB Type-C 2 ตำแหน่ง
  • ปรับเครื่องปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone
  • ปรับจูนช่วงล่างและพวงมาลัยใหม่ เฉพาะรุ่น GR Sport
  • ตัดม่านบังแดดบริเวณกระจกบังลมหลัง
  • ตัดกระจกมองข้างปรับมุมอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse Link)
  • ราคาเพิ่มขึ้น 15,000 บาท

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

เบนซิน 1.6 ลิตร

เครื่องยนต์รหัส 1ZR-FBE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร 1,598 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 78.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด : 10.2 : 1 พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual VVT-i กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- ล็อคอัตราทด 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

 

 

เบนซิน 1.8 ลิตร

เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FBE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. Dual VVT-i กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual VVT-i กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- ล็อคอัตราทด 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

 

เบนซิน 1.8 Hybrid

เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. VVT-i กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า

 

สีตัวถังภายนอก
Exterior Color

  • สีเงิน Metal Strem Metallic (NEW)
  • สีขาวมุก Platinum White Pearl
  • สีเทาฟ้า Celestial Gray Metallic
  • สีดำ Attitude Black Mica
  • สีแดง Red Mica Metallic (เฉพาะรุ่น GR Sport)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here