ปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยที่ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างพากันปวดหัวและต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ เนื่องจากมีความสำคัญถึงการสูญเสียโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบการชน การทำงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ ตามมาตรฐานที่ได้รับการกำหนดไว้ในแต่ละภูมิภาคที่รถยนต์รุ่นนั้นๆ วางจำหน่าย และเป็นอีกครั้งที่ค่ายสามห่วง ต้องเผชิญกับปัญหาความปลอดภัยอีกครั้ง กับรถ SUV ยอดนิยมที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย อย่าง Corolla Cross
โดยปัญหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการทำงานของถุงลมนิรภัยตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้า อย่างไรก็ตาม ต้นต่อของปัญหา ไม่ได้เกิดจากตัวชิ้นส่วนถุงลมนิรภัยและการทำงาน เนื่องจากปัญหานั้นเกิดจากชิ้นส่วนคอนโซลหน้าบริเวณผู้โดยสารตอนหน้าที่จะต้องมีกระบวนการผลิตจากผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อให้มีบริเวณที่รองรับการทำงานของถุงลมนิรภัยเมื่อเกิดการระเบิดอย่างรวดเร็ว โดยผิวสัมผัสดังกล่าวจะเกิดจากกระบวนการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับแรงระเบิด เพื่อให้ถุงลมนิรภัยทำงานได้ตามมาตรฐานที่ถูกออกแบบไว้
ผลที่เกิดขึ้นนั้นทำให้รถยนต์ที่ถูกติดตั้งชิ้นส่วนคอนโซลหน้าที่ไม่ได้ถูกผลิตตามมาตรฐาน จะไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการทดสอบการชนไปในตัว จึงทำให้เกิดแคมเปญแจ้งเตือนไม่ให้มีการโดยสารในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าในกลุ่มรถที่ได้รับผลกระทบและอยู่ในข่ายต้องสงสัย จนกว่ารถดังกล่าวจะเข้ามารับการตรวจสอบตามแคมเปญเรียกอย่างเป็นทางการ โดยหาก Toyota ตรวจสอบพบความผิดปกติของรถคันดังกล่าว จะได้ทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนคอนโซลหน้าที่มีปัญหาโดยทันที
โดยรถยนต์รุ่น Corolla Cross ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2023 ที่ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน จำนวนกว่า 96,000 คัน ที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ โดยในรุ่นขุมพลัง hybrid ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
Toyota จะออกแคมเปญให้ลูกค้านำรถกลับมาตรวจสอบในเดือนกรกฎาคม 2023 นี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อนัดหมายนำรถเข้าตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม Toyota ได้ออกมายืนยันว่าชิ้นส่วนถุงลมนิรภัยและตัวจุดระเบิดจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านความปลอดภัยแต่อย่างใด เนื่องจากมีเคสเช่นนี้เกิดขึ้นในรถยนต์จาก General Motors เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยชิ้นส่วนตัวจุดระเบิดที่อาจทำงานผิดพลาด เป็นเหตุให้เกิดการเรียกคืนเข้ามาตรวจสอบ เช่นเดียวกับรถยนต์จากแบรนด์ Ford รุ่น Ranger จำนวนกว่า 231,000 และ Volkswagen Atlas ที่เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน
ที่มา: Motor1