Tesla Model Y กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ด้วยการค่อยๆ เข้ามาแทนที่ Model 3 เกาะกระแสนิยมรถ SUV ที่เป็นงานยากสำหรับบรรดารถซีดานในปัจจุบัน โดยในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา Tesla ได้เผชิญปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนสำหรับประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะชิปประมวลผล ที่ทำให้ยอดสั่งจองต้องรอการส่งมอบรถกันถ้วนหน้าจนกระทั่งปัญหาดังกล่าวได้คลี่คลายลงในช่วงต้นปี 2023 นี้
ความสำเร็จของ Model Y ส่งผลให้ขึ้นแท่นรถยนต์ขายดีที่สุดในตลาดยุโรปช่วงเดือนมีนาคม 2023 รวมไปถึงยอดขายรวมของไตรมาสที่ 1 จากทั่วภูมิภาคยุโรปกว่า 27 ประเทศอีกด้วย โดยคิดเป็นยอดขายจำนวนกว่า 71,683 คัน ครองแชมป์เบอร์ 1 ทั้งตลาดรถ EV และตลาดรถยนต์นั่งรวมทั้งหมด จากที่เคยรั้งอันดับที่ 31 ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 ที่ผ่านมา
จากรายงานของ JATO ได้เผยยอดจดทะเบียนของรถยนต์นั่งในภูมิภาคยุโรปตลอดไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 ด้วยจำนวนกว่า 3,220,806 คัน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มจากปี 2022 ถึง 17% โดยในเดือนมีนาคม 2023 นับกว่าทุกค่ายส่งมอบรถยนต์ไปได้เยอะที่สุด ด้วยจำนวนมากถึง 1,414,815 คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มจากปี 2022 กว่า 26% หลังจากแต่ละค่ายต่างเจอปัญหา Back order ดันอย่างไม่ขาดสาย
อีกค่ายรถยนต์ที่น่าจับตาตามรายงานของ JATO ได้แก่ Volkswagen Group ที่จ่อรดคอหอย Tesla ในกลุ่มรถ EV ไม่หนีไปไหน เนื่องจากมียอดขายน้อยกว่าเพียง 2,400 คัน โดยได้เพิ่มสัดส่วนรถ EV จากยอดขายรวมของค่ายเป็น 57% ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีราคาจับต้องได้ แต่ก็ไม่วายเจอคู่แข่งที่เน้นราคาคุ้มค่าจากแดนมังกรอย่าง MG ซึ่งเปิดตัว MG 4 เพื่อมาต่อกรกับ ID.3 โดยมีราคาจำหน่ายถูกกว่าอย่างมีนัยสำคัญในตลาดยุโรป ทำให้ MG สามารถปั่นยอดขายรถ EV จนกลายมาเป็น 1 ใน 10 แบรนด์รถ EV ในตลาดยุโรปได้ ถึงแม้ว่าจะเริ่มส่งมอบไปได้ไม่นานนี้ก็ตาม
ค่ายญี่ปุ่นอย่าง Nissan เองที่เคยเป็นผู้นำในตลาดรถ EV เริ่มจะแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงเพื่อนร่วมสัญชาติอย่าง Toyota ที่ส่งมอบ bZ4X ไปได้จำนวนเพียง 3,700 คัน ในยุโรป ถึงกระนั้น ยังทำให้การเติบโตของรถ EV ของค่ายสามห่วงดูมีอนาคตที่สดใสขึ้นมาบ้าง
ที่มา: JATO