Lexus ปรับโฉมรถสปอร์ตเรือธงเครื่องยนต์ V8 ที่มีเส้นสายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวรุ่นซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 จนเดินทางมาถึงช่วงกลางอายุตลาด ทำให้ทางค่ายได้ฤกษ์ปรับปรุงหน้าตาภายนอกเล็กน้อยพร้อมอัพเดทฟังก์ชั่นการทำงานให้ทันสมัยทัดเทียมกับเพื่อนร่วมค่าย

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวเวอร์ชั่นพิเศษซึ่งเป็นงานตกแต่งเพิ่มเติมให้ตัวรถมีความสปอร์ตแบบหรูหรามากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่สีตัวถังภายนอก ที่เลือกใช้เป็นสีขาวด้าน Hakugin White ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ยังได้รับการตกแต่งด้วยสีที่อ้างอิงจากรถสปอร์ตเรือธงเครื่องยนต์ V10 ในตำนานอย่าง LFA

เส้นสายภายนอกหากดูด้วยผิวเผินอาจมองไม่เห็นความแตกต่างจากรุ่นปกติ แต่ทว่าในรุ่นพิเศษนี้ทาง Lexus ได้ออกแบบครีบรีดอากาศที่บริเวณกันชนหน้า โดยใช้กรรมวิธีการผลิตขั้นสูงจึงทำให้ชิ้นส่วนครีบถูกหล่อออกมาเป็นชิ้นเดียวกันกับกันชน แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไปที่จะต้องผลิตแบบแยกชิ้น แล้วจึงนำมาติดตั้งในภายหลังชิ้นส่วนดังกล่าว ทาง Lexus ได้เคลมว่าไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบให้ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อลดแรงยกแรงต้านที่บริเวณด้านหน้า ทำให้มีการควบคุมการเปลี่ยนทิศทางรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ความพิเศษของการออกแบบในสไตล์ Luxury japanese ยังถูกถ่ายทอดมายังบริเวณภายในห้องโดยสาร ที่แต่เดิมทางค่ายก็ได้ฝากเส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์จนกระทั่งในรุ่นพิเศษนี้ จึงได้เพิ่มเติมสีภายในใหม่หมดจดโดยเรียกว่าสีน้ำเงิน Kachi-Blue ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาวุธของนักรบซามูไรในตำนาน ที่มีความผสมผสานระหว่างสีดำและสีน้ำเงิน พร้อมกันนี้ยังได้สลักเลขตัวถังบนแผ่นเพลทอลูมิเนียม เพื่อบ่งบอกความพิเศษแบบจำนวนจำกัดที่บริเวณคันเกียร์ ยิ่งไปกว่านั้นยังติดตั้งแผ่นสคัฟเพลทที่บริเวณประตูพร้อมระบุข้อความ Limited Edition

นอกจากนี้ยังมาพร้อมการอัพเดทฟังก์ชั่นการทำงานภายในโดยเฉพาะระบบความบันเทิงเริ่มที่จอกลางขนาด 12.3 นิ้วระบบสัมผัสที่ได้รับการติดตั้งโปรแกรมและระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดและมีการยกเลิกการติดตั้ง touchpad เพื่อควบคุมการทำงานต่างๆเหมือนดังรุ่นอื่นๆในค่ายเพื่อให้การทำงานผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงและการสั่งการผ่านหน้าจอโดยตรงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

สำหรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังยังคงใช้ชุดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีการตอบสนองที่ทันใจและมีความต่อเนื่องในการส่งกำลัง พร้อมปรับแต่งเสียงเครื่องยนต์รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนการทำงานของเฟืองท้ายและชุด Differential ให้มีการทำงานควบคู่กับระบบส่งกำลังอย่างมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น พร้อมกับปรับปรุงระบบเบรกที่ใช้การสื่อสารด้วยระบบไฟฟ้าแทนระบบไฮดรอลิค หรือที่เรียกว่า brake-by-wire ให้มีการตอบสนองอย่างมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน v8 ได้มีการเพิ่มเติมโหมดการขับขี่ Expert model เพิ่งถูกออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตเป็นการสั่งยกเลิกการทำงานระบบช่วยเหลือให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะที่รุ่นขุมพลัง hybrid ได้มีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้มีความจุมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อน

Lexus จะเริ่มขึ้นสายพานการผลิตของเวอร์ชั่นปรับปรุงรุ่น LC โดยจะพร้อมทำตลาดในยุโรป ช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ขณะที่รุ่นพิเศษจำนวนจำกัดจะตามมาในภายหลังในเดือนกันยายน

ที่มา: Motor1