รัฐบาลสาธารณะประชาชนจีนพยายามปลุกระดมให้ค่ายรถยนต์ผลิตรถยนต์พลังงานสีเขียวอย่างเต็มที่ทั้งสนับสนุนด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคและโครงสร้างภาษีให้เอื้อต่อการผลักดันยอดขายสูงสุดลำดับต้น ๆ ของโลกแซงสหรัฐอเมริกา แต่เชื่อหรือไม่ จิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมไม่ได้ปลูกฝังกันแค่ข้ามคืน?
ถึงแม้ประเทศจีนอยู่ในเขตแดนที่เราพอจะเรียกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่มิได้หมายความว่าประชากรจีนทั้งหมดต้องมีการพัฒนาก้าวกระโดดตามไปด้วย เมื่อพบว่ารถยนต์พลังงานสีเขียวทั้งหลายกลับไม่เป็นที่สนอกสนใจจากลูกค้าชาวจีนเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งเราเห็นยอดขายรถยนต์พลังสีเขียวในจีนแล้วก็รู้สึกเข่าอ่อนจนอยากทรุดลงกับพื้น แม้กระทั่งแบรนด์รถยนต์จีนอย่าง Changan Auto ก็เปิดเผยผ่าน China Business News ว่ายอดขาย Jiexun HEV ซึ่งถือเป็นรถยนต์นั่ง Hybrid ไม่น่าพอใจนักในรอบ 1 ปีนี้
หันไปดูแบรนด์ BYD ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในจีนก็ไม่อาจสร้างยอดขายจากรถพลังงานสีเขียวได้เลย น่าตกใจมากเมื่อเห็นยอดขายรถไฟฟ้า BYD E6 ระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2010 ขายได้แค่เพียง 54 คันเท่านั้น น้อยมากจนแทบช๊อก หรือรถ Hybrid ที่น่าจะได้รับความนิยมอย่าง BYD F3DM อุตส่าห์ใช้เรือนร่างจากรถคอมแพคท์ขายดีก็มีชะตากรรมยอดขายระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2010 เพียงแค่ 290 คันเท่านั้น !!
ส่วนแบรนด์ระดับชาติก็หนีไม่พ้นปัญหายอดขายรถสีเขียวน้อยมาก ๆ เช่นกัน เชื่อหรือไม่ Toyota Prius ทำยอดขายได้เพียงแค่ 4,000 คันนับตั้งแต่วางจำหน่าย 3 ปี !!
ใช่ว่ายอดขายรถสีเขียวต่ำเพราะลูกค้าชาวจีนไม่มีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมกัน 100% แต่สาเหตุสำคัญก็เพราะลูกค้าชาวจีนจำนวน 89% ยังไม่ไว้วางใจเทคโนโลยีรถยนต์สีเขียวเลย อีกทั้งลูกค้ายังไม่เห็นความจำเป็นจะต้องจ่ายแพงเพียงเพื่อแค่ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ที่สำคัญโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเอิ้อต่อการใช้รถสีเขียวยังไม่เพียงพอจนน่าพอใจ
ผู้บริหารระดับสูงจาก Changan Auto ยังเปิดเผยอีกว่ารัฐบาลจีนสนับสนุนลดภาษีเฉพาะรถไฟฟ้ามากถึง 60,000 หยวนหรือ 9,000 ดอลลาร์แต่กลับลดภาษีให้กับรถ Hybrid เพียงแค่ 3,000 หยวนเท่านั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรถ Hybrid ถึงไม่ประสบความสำเร็จในจีนเสียที