ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการทำเซอร์ไพรส์ ให้คุณผู้อ่าน 2 รายการติดต่อเนื่องกัน
ในช่วงสัปดาห์เดียว เช่นนี้อีกแล้ว

เพราะรู้กันอยู่ว่า กระแสเรียกร้องหนะ มีเข้ามาพอสมควร
แต่ในเมื่อช่วงที่ผ่านมา ผมได้พยายามติดต่อกับทาง GM Thailand แล้ว และพวกเขา
ยังไม่พร้อมกันเสียที ที่จะให้เราได้ทดลองขับ ผมก็เลยได้แต่บอกว่า เอาไว้ถ้าพร้อมเมื่อไหร่
ก็โทรมาบอกแล้วกัน

แล้วในที่สุด Weber Shandwick PR Agency ของ GM Thailand ก็ติดต่อผมมาเรียบร้อย
แม้จะค่อนข้างฉุกละหุกไปสักหน่อย คือ โทรนัดวันที่ 8 ธันวาคม แต่จะให้ลองขับใน
ช่วงเช้าหรือบ่ายก็ได้ของวันที่ 9 ธันวาคม

อ้าว เฮ้ย ก็วันนี้เลยนี่หว่า..!

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย! สายแล้วววววววววววววววววววว ลืมสนิทเลย!!!!!!!

(ภาพหลังจากนั้น ไม่ต้องพูดถึง…ข้าวของในห้องนอน กระจุยกระจาย ร่างใหญ่โต
ระดับน้องๆ พญาคชสาร รีบหุนหันพลันแล่น พุ่งพรวด ตัวปลิว ขับรถออกจากบ้าน
พุ่งละลิ่ว มายัง มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ หรือแดนเนรมิตร เก่า )  

สภาพการจราจรในตอนเช้า ที่ไม่ได้ติดขัดมากนัก ทำให้ผมมาถึงลานจอดรถของ
มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ ก่อนเวลา ประมาณ ครึ่งชั่วโมง  

บรรดา Cruze รุ่น 1.8 และ 2.0 Diesel ซึ่งจะเป็นเพียง 2 รุ่นที่ทาง Chevy จัดเตรียมให้เรา
ได้ทดลองขับกันในวันนี้ จอดสงบนิ่งเรียงกันอยู่หลายคันแล้ว

รีวิวคราวนี้ ถือว่า สนุกสำหรับคนเขียนกว่าครั้งก่อนๆ เพราะคราวนี้ นั่งเขียนกันสดๆ
ริมสนาม ถ้าสงสัยในประเด็นตรงไหน ก็แค่ ลุกออกจากหน้าจอ แล้วเดินไปลองนั่ง ลองเล่น
ให้หายสงสัย พอได้คำตอบ ก็เดินตรงแหน่วกลับมาเขียน ดังนั้น นอกจากจะได้ความตรงไป
ตรงมาอย่างที่เราเป็นเหมือนเช่นทุกรีวิวแล้ว คราวนี้ยังจะได้ความสดใหม่ ราวกับคุณเดิน
มาถามผมที่ริมสนามกันเลยทีเดียว

แต่ต้องบอกกันก่อนว่า 2-3 รอบสนาม มอเตอร์สอร์ตแลนด์ หนะ มันไม่เพียงพอหรอก
ที่จะทำให้คุณได้รู้บุคลิกทั้งหมดของรถ แถมฟิลลิงของรุ่น 1.8 ก็แทบจะไม่ได้รับรู้
มากเกินไปกว่าการหักหลบกรวยพลาสติก บนลานไม่กว้างนัก เท่านั้น มิอาจสัมผัส
ถึงอัตราเร่งที่หลายๆคน เขาบอกกันมาว่า น่าประทับใจ ได้เลยเนี่ยสิ

สิ่งที่จะพอรับรู้ได้ ความมั่นใจในการหักหลบสิ่งกีดขวาง การตอบสนองของระบบกันสะเทือน
และการตอบสนองของพวงมาลัย ในขณะเข้าโค้ง เพียงเท่านั้น ในเบื้องต้น

ขี้เกียจอารัมภบทละ เกือบทุกสิ่งที่คุณอยากรู้ในเบื้องต้น รออยู่ด้านล่างแล้ว

อันที่จริง Chevrolet Cruze เผยโฉมคันจริงอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่องาน Paris
Auto Salon 2008 แต่กว่าจะทะยอยเปิดตัวไปทั่วโลก ก็ต้องใช้เวลากันอยู่พักใหญ่
ขนาดในสหรัฐอเมริกา ก็ยังพึ่งจะส่งขึ้นโชว์รูม ก่อนหน้าเมืองไทยไม่นานเท่าไหร่นัก

ในเมืองไทย เปิดตัว เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2010 ที่ โรงแรม เซ็นทรารา เซ็นทรัลเวิล์ด
และเริ่มออกแสดงสู่สาธารณะชนครั้งแรก ในงาน มหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2010
ช่วงวันที่ 1-12 ธันวาคม 2010

และด้วยเหตุที่ มีเสียงเรียกร้องจากเหล่าสื่อมวลชนสายรถยนต์กันมากมาย (อันที่จริง
ก็รวมทั้งผมด้วยนั่นละ เลยทำให้ GM Thailand ตัดสินใจได้ว่า ควรจะต้องรีบจัดทริป
ทดลองขับ แบบสั้นๆ พอให้รู้สัมผัสกันเล็กๆน้อยๆ ว่า บุคลิกของรถเป็นอย่างไร

เพราะงานนี้ GM Thailand รู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่า หน้าที่ของ Cruze ก็คือ จะต้องเข้ามา
รับหน้าเสื่อทำตลาดในกลุ่ม Compact Sedan C-Segment แทนที่ Chevrolet Optra
ซึ่งพวกเราคนไทยก็เบื่อหน้ากันเต็มทนแล้ว เพราะเปิดตัวในเมืองไทยกันมาตั้งแต่
เดือนมีนาคม 2003 ซึ่งนับจากนี้ Chevrolet ก็ยังจะขาย Optra ในบ้านเรากันต่อไป
อีกสักพัก จนกว่า รถจะหมดจากสต็อก ดังนั้น พวกเขาจึงตั้งความหวังกับ Cruze
เอาไว้ค่อนข้างเยอะ ยิ่งการมีดีกรี การยอมรับจากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ที่เปิดตัว
ไปก่อนหน้านี้ ทำให้ GM Thailand ก็ยิ่ง มั่นใจมากขึ้น ว่ารถคันนี้ ต้องมีดีพอตัว

เพียงแต่ว่า อาจจะแอบเสียวเล็กน้อย เมื่อจะต้องมาเจอ ไอ้อ้วนปากหมาอย่างผม
หาข้อติรถสุดรักของพวกเขา (ฮา)

แต่ ดูท่าทาง พี่จอย ศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำ
ประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน ของ GM Thailand ก็มีทีท่า ผ่อนคลายลง
และแอบสบายใจขึ้นนิดหน่อย หลังจากที่ได้ฟังความเห็นต่างๆ หลุดออกมา
จากปากผม….ดังต่อไปนี้….

หากดูจากมิติตัวถัง ที่ยาว 4,600 มิลลิเมตร กว้างถึง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร
และระยะฐานล้อ 2,685 มิลลิเมตรแล้ว ต้องบอกเลยว่า ตัวถังของ Cruze น่าจะกว้างที่สุด
ในบรรดา รถยนต์กลุ่ม Compact หรือ C-Segment ด้วยกัน อีกทั้งยังมีระยะฐานล้อ
เป็นรองเพียงแค่ Honda Civic FD รุ่นปัจจุบัน (2,700 มิลลิเมตร) เท่านั้นเลย
แต่ที่แน่ๆ ขนาดตัวถังของ Cruze นั้น ใหญ่โตขึ้นกว่า Optra เจ้าเก่าของเราทั้งคัน

รถคันที่คุณจะเห็นในภาพถ่ายชุดนี้ จะมีแต่รุ่น 2.0 LTZ อันเป็นรุ่นท็อปสุด
ซึ่งในรุ่น 1.8 LTZ ก็จะมีการตกแต่งด้วยอุปกรณ์ประมาณนี้ พอกัน

เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะพบว่า บรรยากาศ ของห้องโดยสาร ออกแบบมาค่อนข้างดีกว่า
รถยนต์ในพิกัดเดียวกันคันอื่นๆ อาจถือได้ว่า มีบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ที่ดีที่สุด
ในพิกัด C-Segment Sedan ก็ว่าได้

ระบบ Keyless Entry พร้อมรีโมทคอนโทรล เดินเข้าใกล้รถ ก็ปลดล็อก และสั่งล็อกได้
รวมทั้ง ปุ่มติดเครื่องยนต์ (ซึ่งออกแบบมาได้ไม่โดดเด่น เอาเสียเลย แถมยังไปซ่อนใน
ตำแหน่ง ที่ถ้าไม่รู้มาก่อน ก็คงจะต้องคลำหากันพักใหญ่เหมือนกัน นั่นแหละ) และ
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control มีมาให้ในรุ่น 1.8 LT ,LTZ และ 2.0 LTZ

เบาะนั่งของ Cruze นั้น…มาในแนวติดสปอร์ตนิดๆ สำหรับคนที่คุ้นชินกับเบาะนั่ง
แบบติดแข็งนิดหน่อย เช่นรถ Honda ในยุค 2 ปีมานี้ คุณอาจจะชื่นชอบในเบาะของ
Cruze เพราะว่า ทั้งเบาะนั่ง และเบาะรองนั่ง ออกแบบมาได้ถูกหลักสรีรศาสตร์ ถ้านั่ง
เป็นเวลานานๆนั้น แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัด แต่โอกาสที่จะนั่งแล้วปวดหลัง ผมว่า
น่าจะเกิดขึ้นได้น้อย เบาะรองนั่ง รองรับได้ถึงข้อพับขาของผมพอดี ถือว่า ภาพรวม
ผมมองว่า เบาะของ Cruze ออกแบบมาดีใช้ได้ และเหมาะกับสรีระของทั้งคนตัวใหญ่
อย่างฝรั่ง หรือคนเอเซียอย่างเราๆ

อย่างไรก็ตาม ฟองน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกเบาะ ค่อนข้างแน่น เลยทำให้เบาะเหมือนกับว่า
นั่งแล้วรู้สึกแข็ง ซึ่งข้อดีก็คือ จะอยู่ทรงได้นาน แม้เวลาจะผ่านไป 3-4 ปี แต่กว่าจะถึงตอนนั้น
ผมว่า ผู้ที่ซื้อไปอาจจะต้องทนกับความแข็งของมันนิดนึง ดังนั้น วิธีแก้ที่ง่ายมากคือ โครงสร้าง
เบาะไม่ต้องไปปรับอะไรอีก เพียงแต่ปรับให้ฟองน้ำที่เสริมอยู่ ให้ลดความแน่นลงอีกเพียง
ระดับเดียวเท่านั้น ไม่ต้องแน่นมาก อย่างที่เป็นอยู่นี้เยอะนัก แค่นี้ก็เป็นอันแก้ไขปัญหาได้จบ

ตำแหน่งที่วางแขน ทั้งบนแผงประตูคู่หน้า และบนฝากล่องเก็บของคอนโซลกลาง
ที่เลื่อนเข้า-ออก ได้นั้น ถือว่า ออกแบบมาได้ถูกตำแหน่ง ถ้าคุณปรับเบาะนั่งให้อยู่
ในตำแหน่งต่ำที่สุด คุณจะวางแขนได้สบายพอดีๆ

ไม่ใช่แค่แผงประตูคู่หน้าเท่านั้นที่ออกแบบมาให้วางแขนได้ดี แต่ แผงประตูคู่หลัง
ก็เป็นเช่นเดียวกัน ทางเข้าห้องโดยสารด้านหลังนั้น เข้าออกง่าย แต่สำหรับคนตัวสูง
ก็ยังต้องก้มหัวลงมานิดนึง ๆไม่เช่นนั้น อาจจะโขกแบบเฉี่ยวๆ กับขอบหลังคาด้านบนได้

เบาะนั่งด้านหลัง ถือว่า นั่งสบาย ที่วางแขน แบบพับเก็บได้ ก็วางแขนได้ดีเช่นเดียวกัน
พื้นที่เหนือศีรษะ มีเหลือแน่ๆ สำหรับคนตัวสูง จะเหลือมากเหลือน้อยขึ้นอยู่กับความสูง
ของสรีระร่างตัวคุณเอง อย่างไรก็ตาม ฟองน้ำของชุดเบาะนั่ง ก็ยังแน่น ไม่แพ้กับเบาะหน้า
ส่วนพื้นที่วางขา ขึ้นอยู่กับว่า คนขับจะเลื่อนปรับเบาะหน้า ตามใจเจ้าตัวเขามากน้อยแค่ไหน
อันที่จริง การมีระยะฐานล้อยาวเป็นอันดับ 2 ของตลาดนั้น ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ และ GM
ก็พยายามนำข้อได้เปรียบตรงนี้ มาพยามปรับเข้ากับการวางตำแหน่งเบาะนั่ง ภายในห้อง
โดยสารมากที่สุดเท่าที่ Packaging ตัวรถจะเอื้ออำนวยให้แล้ว

แผงหน้าปัด มีคอนโซลกลาง มาในแนวตัว Y นอกจากจะดูทันสมัยแล้ว ยังวางตำแหน่ง
อุปกรณ์ต่างๆไว้อย่างเหมาะสม ยกเว้น สวิต์ของเครื่องปรับอากาศ ที่อยู่ในตำแหน่งต่ำ
ไปสักหน่อย อย่างไรก็ตาม คงต้องแลกกัน ถ้าคุณอยากได้ งานออกแบบสวยๆ บน
แผงควบคุมกลาง บางที สวิชต์แอร์ ก็คงต้องลดตำแหน่งลงมาอยู่ในระดับที่ทุกวันนี้มันเป็น

ชุดมาตรวัดของ Cruze นั้น ออกแบบในสไตล์เดียวกับรถอเมริกันยุคใหม่ หลายรุ่น
คือ วางตัวเลข ในแนว โค้งรับไปกับกรอบมาตรวัด ซึ่งกลับกลายเป็นว่า อาจจะมีผลต่อ
การอ่านข้อมูลขณะขับขี่ ผมมองว่า การออกแบบตัวเลขที่ดี นั้น ควรจะทำให้ ผู้ขับขี่
ใช้เวลาน้อยที่สุดในการอ่านตัวเลข เพื่อรับทราบว่า ความเร็วที่ใช้อยู่ที่ระดับไหน
และรอบเครื่องยนต์ อยู่ที่ระดับเท่าไหร่ ก่อนจะกลับไปมองที่สภาพการจราจร
ข้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ผมมองว่า มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
โดยตรง เพียงแต่ว่า อาจยังไม่ถึงกับต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วนนัก รอรุ่นปรับโฉม
หรือปรับปรุงอุปกรณ์ครั้งต่อไป ค่อยทำก็ได้

พวงมาลัย 3 ก้าน ออกแบบให้ดูดี แต่สวิชต์ของระบบ Cruise Control อาจจะดูป๊อกแป๊ก
ไปนิดนึง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เครื่่องปรับอากาศ ก็ทำงานได้เย็นเร็วดี แม้ในวันที่
อากาศค่อนข้างร้อน ผิดไปจากปกติของฤดูหนาว (จนอยากจะถาม กรมอุตุนิยมวิทยาว่า
ที่พี่บอกว่าไทยเราจะหนาวสุดในรอบ 30 ปีหนะ ไหนฮะ ลมหนาวนี่ ยังไม่มาปะทะ
ผิวกายผมเร็วเท่าแอร์ของเา Cruzeนี่เสียที

จุดอ่อน เพียงหนึ่งในไม่กี่จุด ที่ผมคิดว่า Cruze น่าจะให้มาได้ดีกว่านี้ คือชุดเครื่องเสียง
ซึ่งเล่น CD ได้แค่ 1 แผ่น ในทุกรุ่น ทั้งที่ รุ่นท็อปของชาวบ้านชาวช่อง เขาเล่นได้ถึง
6 แผ่น กันมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังพอจะชดเชยกันได้ ด้วยการติดตั้ง ช่องเสียบ AUX
และ USB รองรับเครื่องเล่น MP3 หรือ บรรดาข้าวของที่ขึ้นต้นด้วยตัว i ทั้ง iPod
iPhone iPad (หรือจะรวม iMac ด้วยก็ได้ ถ้าคิดว่าจะยกมาติตั้งในรถไหวละก็)

แต่ถ้าถามเรื่องคุณภาพเสียง ถ้าคุณฟังโดยไม่ปรับ Equalizer ทั้งสิ้น บอกเลยครับว่า
เสียงไม่ดี แต่ถ้าคุณปรับตามสูตร เสียง ใส หรือ Trebal ตั้งเอาไว้ที่ 10 เสียงกลาง
หรือ Middle ตั้งค่าเอาไว้ที่ -3 อย่าต่ำกว่า -5 และ เสียงเบส ตั้งเอาไว้แถวๆ 5
เพียงเท่านี้ คุณจะพบว่า เครื่องเสียงของ Cruze ที่ให้มา มีคุณภาพเสียงที่ ดีใช้ได้
ถือเป็นอันดับต้นๆในกลุ่ม C-Segment เลยทีเดียว สรุปว่า มันฟังได้ดี แต่คุณต้อง
ปรับเสียงของมันให้เป็น

เครื่องยนต์ของ Cruze เวอร์ชันไทย จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ขนาด เริ่มกันที่
เครื่องยนต์พื้นฐาน E-TEC II บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,598 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 79 x 81.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 : 1
จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Multi Point Injection ควบคุมด้วยสมองกลอีเล็กโทรนิคส์
พร้อมระบบแปรผันท่อทางเดินไอเสีย VGIS 109 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร หรือ 15.28 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้ง
เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ (รุ่น 1.6 Base 5MT) และอัตโนมัติ 6 จังหวะ DSC (รุ่น
1.6 LS 6AT)

ตามด้วยเครื่องยนต์รุ่นกลาง ECOTEC บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,796 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 88.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1
จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Multi Point Injection ควบคุมด้วยสมองกลอีเล็กโทรนิคส์
พร้อมระบบแปรผันวาล์วที่หัวแคมชาฟต์ Double CVC (Contimuous Variable
Cam Phasing เรียกง่ายๆก็คือ มีระบบ Dual VVT-i คล้าย Toyota Corolla ALTIS
Minorchange นั่นละครับ) 141 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
177 นิวตันเมตร หรือ 18.1 กก.-ม. ที่ 3,800 รอบ/นาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา
5 จังหวะ (รุ่น 1.8 :S 5MT)  และอัตโนมัติ 6 จังหวะ DSC (รุ่น 1.8 LS , LT & LTZ)

และ เครื่องยนต์ Diesel บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,991 ซีซี Commonrail
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 79 x 81.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 : 1
จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Multi Point Injection ควบคุมด้วยสมองกลอีเล็กโทรนิคส์
พร้อมระบบ Turbo แบบมีครีบแปรผัน VGT 150 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร หรือ 32.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที มีให้เลือก
เฉพาะเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ DSC เท่านั้น (รุ่น 2.0 LTZ)

สรุปว่าเป็นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ยกมาจาก Optra เดิม แต่มีการปรับปรุงรายละเอียด
ภายในนิดหน่อย ส่วนเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร มาจาก Opel เยอรมัน ส่วนเครื่องยนต์
ดีเซล จาก Captiva คุณคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า มันมาจาก VMC อิตาลี

นับเป็นเรื่องแปลก แต่พอจะเข้าใจได้ ที่ Product Planning ของ GM Thailand
ในขณะนั้น เลือกให้รุ่นท็อปของ Cruze เป็นเครื่องยนต์ ดีเซล แทนที่จะเป็น
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเบนซิน ส่วนหนึ่ง อาจจะมาจาก ต้องการเป็นทางเลือกใหม่
ไว้ประกบกับคู่แข่งจาก..เอ่อ จะเรียกว่า อเมริกัน หรือยุโรป ดีหว่า อย่าง เจ้า
Ford Focus TDCi นั่นเอง เพราะน่าจะรู้ดีว่า หากสู้ด้วยเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0
ธรรมดาๆ ก็อย่าหวังเลยว่า จะสู้กับ Honda Civic FD หรือ Toyota Corolla ALTIS
หากเป็นเช่นนั้น การฟัดเหวี่ยงกับ Mitsubishi Lancer EX 2.0 คือหนทางที่พอจะ
เป็นไปได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ครั้นจะรอเครื่องยนต์ ดีเซล บล็อกใหม่ ก็ต้องรอกันต่อไปจนถึง
ปลายปี 2011 ซึ่งนั่นน่าจะนานเกินไป จนทำให้ อาจเสียยอดขายบางส่วน
ให้คู่แข่งไปได้ ดังนั้น งานนี้ GM Thailand ก็เลยต้องกัดฟัน ยกเอาเครื่องยนต์
ดีเซล VCDi จาก Chevrolet Captiva มาให้ Cruze ได้ยืมใช้ ทำตลาดไปพักหนึ่งก่อน

ระบบกันสะเทือนหน้า เป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัต ช็อกอัพแก็ส และมี
เหล็กกันโคลงมาให้ ขณะที่้ด้านหลัง เป็นแบบ ทอร์ชันบีม ช็อกอัพแก็ส และไม่มี
เหล็กกันโคลงหลังมาให้ แต่ เรื่องดีอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมมอง Cruze ในแง่ดีขึ้นมา
คือการยังคงใช้พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบ ไฮโดรลิก
ตามเดิม โดยไม่สนใจพวงมาลัยไฟฟ้า EPS แม้แต่น้อย

สิ่งที่ทำให้ Cruze น่าสนใจขึ้นมาในสายตาของผมก็คือ การติดตั้งอุปกรณ์ ความปลอดภัย
ทั้งเชิง ป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety) มาให้ค่อนข้างจะเยอะ
เมื่อเทียบในราคาของแต่ละรุ่น

ถุงลมนิรภัย มีมาให้ตั้งแต่รุ่น 1.6 ลิตร LS 6AT และ 1.8 LS ทั้ง 5MT และ 6AT โดยเริ่มต้น
ด้วยถุงลมฝั่งคนขับ เพียงใบเดียว แต่น่าเสียดายว่า ไม่ยักมีให้เห็นในรุ่น 1.6 Base 5MT
ทั้งที่ในราคาระดับนี้ ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ ควรใส่มาให้แล้วเป็นอย่างต่ำ

ทว่า ในรุ่น 1.8 LT ขึ้นไป ถุงลมนิรภัยจะมีให้ทั้งฝั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า เป็น 2 ใบ
และถ้าเป็นรุ่น 1.8 LTZ กับ 2.0 LTZ จะมี ถุงลมนิรภัยด้านข้างแถมมาให้อีก 2 ใบ รวมเป็น 4 ใบ

กระนั้น ตั้งแต่รุ่นถูกสุด 1.6 Base เกียร์ธรรมดา ก็จะมีระบบห้ามล้อ เป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
คู่หน้ามีรูระบายความร้อน และมีระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD
รวมทั้งมีกุญแจรีโมท พร้อมระบบ Immobilizer มาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงานทุกคัน

ส่วนระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP (Electronic Stability Program) รวมทั้งระบบป้องกัน
การออกตัวล้อหมุนฟรี TCS Traction Control System จะมีให้ตั้งแต่รุ่น 1.8
และ 2.0 ทุกรุ่น

ผมอาจจะแอบใช้เวลากับ Cruze ในสนาม มากรอบกว่าคนอื่นๆเขาสักหน่อย ยิ่งขับไปหลายๆรอบ
ยิ่งจับอาการจนได้พบว่า เมื่ออยู่ในโค้ง อาการของ Vruze มีลักษณะที่คล้ายคลึง และชวนให้นึกถึง
Saab 9-3 รุ่นสุดท้ายที่มีขายในเมืองไทย อยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่า เบากว่า คล่องขึ้น และแอบ ขับสนุก
หรือที่เรียกว่า Fun to Drive มันเป็นรถที่ตอบสนองในโค้งได้ค่อนข้างมีชีวิตชีวา การให้ตัวของ
ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชันบีม สัมผัสได้เลยว่า เมื่อคุณพยายามเข้าโค้งหนักๆ มันจะพยายาม
ทำงานประสาน ช่วยเหลือระบบแม็คเฟอร์สันสตรัต ด้านหน้า เพื่อไม่ให้รถหลุดออกจากโค้ง
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเหยียบคันเร่งเติมเข้าไปในโค้ง มันก็จะเป็นรถขับล้อหน้าปกติ ที่จะมี
อาการหน้าดื้อ ขึ้นอยู่ับว่าคุณจะเติมน้ำหนักเท้าขวาลงบนคันเร่งมากน้อยเท่าใด

ความน่าชื่นชมดังกล่าว ไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่ระบบกันสะเทือน หากแต่ยังรวมไปถึงการบังคับเลี้ยว
ของพวงมาลัย ที่แท่นยำ และมีความหนืดกำลังดี ไม่เบาไป และไม่หนักไป ทั้งในช่วงที่คลานหาที่จอด
หรือกำลังเล่นสนุกอยู่ ในโค้งตัว S การตอบสนองถือว่าทำได้ดีมาก ถ้าให้จัดอันดับ ตอนนี้
พวงมาลัยของ Cruze จะอยู่ในกลุ่มของ Mazda 3 Mitsubishi Lancer EX และ Ford Focus
และแน่นอน การตอบสนอง ถือว่าดีกว่า พวงมาลัยของ Toyota Corolla ALTIS Minorchange
และ Nissan TIIDA เพียงแต่ว่า พวงมาลัยของ Cruze จะคล่องและไวกว่า Focus มีน้ำหนัก
และความเสถียร กว่า Mazda 3 นิดเดียว แต่ยังไม่หนืดเท่า Lancer EX

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราไม่มีโอกาสลองสมรรถนะของเครื่องยนต์มากนัก สิ่งที่ผมพอจะ
บอกคุณได้ก็คือ ในการเร่งหรือ ออกตัว บุคลิกของเครื่องยนต์ Diesel 2.0 ลิตร มันก็เหมือนกัน
กับ Captiva ตัว Diesdel นั่นแหละ และเพียงแต่ว่า เมื่อวางในตัวรถที่น้ำหนักเบากว่า ต้านลม
น้อยกว่า ประสิทธิภาพของมันก็จะออกมาดีกว่ากันนิดนึง แต่ที่แทบจะไม่ต่างกันเลยคือ เสียง
ของเครื่องยนต์ ที่ไม่รู้ว่า พี่จะดังไปไหนของพี่ครับ หืม? การเก็บเสียงจากพื้นถนน แะจาก
ห้องเครื่องยนต์ ผมว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าทำออกมาไม่ดี ป่านนี้ เสียงเครื่องยนต์ของ
รุ่น 1.8 น่าจะดังเข้ามาให้ได้ยินมากกว่านี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องสมรรถนะของ
เครื่องยนต์ เราคงต้องสรุปกันอีกที เมื่อถึงเวลาของ Full Review…

(ภาพจาก พี่ตั้ม www.WorldWheelsWeb.com ในเครือของนิตยสารกรังด์ปรีซ์)

********** สรุป (เบื้องต้น) **********
ถ้า Optra เคยเป็นอาหารเจ Cruze จะเป็นอะไรกันดีละเนี่ย?

ถ้าจะบอกว่า นี่คือ Chevrolet สำหรับจำหน่ายในเมืองไทย คันแรก ที่ผมมีเรื่องให้บ่นกับตัวรถ
น้อยที่สุด ตั้งแต่พวกเขากลับมาเปิดกิจการในเมืองไทยอีกรอบ ตั้งแต่ปี 1997 คุณจะคิดยังไง
กันบ้างครับ?

แม้ว่าจะมีรายละเอียดบางอย่างเล็กๆน้อยๆ รอบคันที่รอการปรับปรุงแก้ไข แต่มันก็ไม่เยอะนัก
เมื่อเทียบกับสิ่งที่ตัวรถมีให้ เพียงแต่ ถ้าคุณคิดว่า ราคามันสูงไปหน่อย ผมก็มองว่า คุณน่าจะได้
ลองขับก่อน สักหน่อยก็น่าจะเพียงพอ ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

คำถามก็คือ ในเมื่อผมเคยให้ความเห็นเอาไว้ว่า Optra เป็น อาหารเจ ที่มีคุณค่าทางสารอาหาร
และสมราคา แต่รสชาติ จืดชืดสนิท หังจากขับ Cruze เสร็จ เมื่อปี 2005 ดังนั้น แล้วถ้าจะเปรียบเจ้า
Cruze เป็นอาหารอะไรได้บ้าง?

ผมเคยให้ความเห็นเอาไว้ว่า Optra เป็น อาหารเจ ที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และสมราคา
แต่รสชาติ จืดชืดสนิท หังจากขับ Cruze เสร็จ ผมเริ่มเกิดคำถามว่า แล้วถ้าจะเปรียบเจ้า
Cruze เป็นอาหารอะไรได้บ้าง?

คุณวิศรุต แห่ง GM Thailand บอกว่า เป็น International Food อาหารที่รวมความเป็น
ส่วนผสมนานาชาติ เข้าไว้ด้วยกัน

อีตา คาร์ลอส PR ของ GM Thailand บอกว่า มันเป็น แฮมเบอร์เกอร์หมูย่าง
ที่มีรสชาติแบบคนไทยชอบ

น้องตวง น้องนักข่าว (แต่ตัวใหญ่กว่าผมเยอะ อิอิ) มองไปไกลเลยว่า มันเป็น
“แฮมเบอร์เกอร์ รสหมูผัดกระเพรา” (เฮ้ย ขนาดนั้นเลยเหรอตวง?)

โอเค ผมได้คำตอบแล้วละว่า เป็น สเต็กเนื้อ U.S New York เลยแล้วกัน
เหตุผลก็เพราะว่า กลิ่นกิมจิ าก GM Daewoo มันเจือจางหายไปจาก Cruze
จนเกือบจะหมด มีบุคลิกที่เป็นสากลมากขึ้น ขับสนุกขึ้น สมราคามากขึ้น

และถ้าเปรียบเป็นคน ผมก็มองเห็นว่า Cruze เป็นชายหนุ่มในเมือง บุคลิก
กลางๆ และแอบสุดโต่งในบางเรื่อง เข้ากับผู้คนได้ง่าย และมีของดีอยู่ในตัวเอง

ปัญหาคือ เราจะอยู่กับชายหนุ่มคนนี้ ได้ นานไหม? เขาเป็นคนน่าคบหาระยะยาวแค่ไหน?
จะหันไปถามพี่จอย (คุณศศินันท์ ในรูปนี้) เชื่อเถอะ พี่จอย ตอบไม่ได้หรอก
พี่เค้า พาลจะหัวเราะก๊ากกกกกก ซะมากกว่า

ทางเดียวที่ผมจะรู้ คงต้องรอติดต่อขอยืมรถทุกรุ่น เท่าที่จำเป็น มาทำ Ful Review กันอีกครั้ง

และเมื่อนั้นแหละ เราคงจะได้รู้จักตัวตนของชายหนุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกันคนนี้ อย่างถึงแก่น!

—————————–///—————————–

ขอขอบคุณ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท General Motors (Thailand) จำกัด
และ บริษัท Weber Shandwick จำกัด

J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ โดยผู้เขียน
ลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ในเมืองไทย ทั้งหมด เป็นผลงานของผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
9 ธันวาคม 2010

Copyright (c) 2010 Text and Pictures
Use of such content either in part or in whole
without permission is prohibited.

First publish in www.Headlightmag.com
December 9th,2010

แสดงความคิดเห็น เชิญได้ คลิกที่นี่