Hyundai เปิดตัว Verna ตัวถังซีดานสำหรับตลาดอินเดีย หรือที่ในตลาดประเทศอื่นทำตลาดในนาม Accent เช่น ตลาดอเมริกาเหนือ ที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 6 แล้ว โดยวางตำแหน่งทางการตลาดต่ำกว่าซีดานอย่าง Elantra และเหนือกว่ารุ่นน้องอย่าง Aura ในกลุ่ม B-segment แต่ก็มาพร้อมกับขนาดตัวที่ใหญ่โตเกินหน้าเกินตาเพื่อนร่วมกลุ่มอยู่ไม่น้อย

 

งานออกแบบภายนอกมาพร้อมกับไฟ DRL ที่ลากยาวตลอดดด้านหน้าของตัวรถ พร้อมกับเส้นสายกระจังหน้าที่เน้นความหรูหราให้สมกับเป็นรถซีดานตัวจบของชาวอินเดีย โดยมีการแยกชิ้นไฟคู่หน้าแบบ LED ออกมาต่างหาก รวมไปถึงไฟท้ายแบบยาวตลอดความกว้างตัวรถ ที่มีการออกแบบให้ซ่อนไฟเลี้ยวและไฟถอยอย่างเรียบเนียนไปกับกันชนหลัง ปิดท้ายด้วยแผ่นดิฟฟิวเซอร์ลายเรขาคณิตสุดแปลกตา

มิติตัวถัง:

  • ความยาว : 4,535 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,765 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,475 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,670 มิลลิเมตร

 

ภายในมาพร้อมกับหน้าจอคู่ที่เชื่อมต่อกันด้วยแผงพลาสติกขนาดใหญ่ ขนาด 10.25 นิ้วทั้งจอกลางและจอมาตรวัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่ พวงมาลัยแบบ 2 ก้านทรงแปลกตา แผงควบคุมระบบปรับอากาศที่ยังคงมีกลิ่นอายของรถรุ่นก่อน และยังคงติดตั้งปุ่มควบคุมแบบกดและแบบหมุนไว้อย่างครบถ้วน ตามแนวทางของค่าย พร้อมคันเกียร์แบบปกติทั่วไป เพิ่มเติมความหรูหราด้วยไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร และการเลือกสีทูโทนในการตกแต่งภายในทั้งคอนโซลหน้าและเบาะนั่งหุ้มหนัง นอกจากนี้ยังมี Paddle shift และ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

ไฮไลท์คืออุปกรณ์มาตรฐานครบครันไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกแบบจานดิส์กที่คู่หลัง ระบบตรวจวัดลมยางอัตโนมัติ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน และเบรกมือแบบไฟฟ้า

 

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันอัตราทด “Intelligent Variable Transmission” (IVT) หรือจะอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch 7 จังหวะ

Hyundai อินเดียวางจำหน่าย Verna จำนวน 4 รุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 4.5 แสนบาท ไปจนถึง 7.2 แสนบาท โดยรุ่นที่จะเปิดตัวตามมาในฐานะฝาแฝดที่มีตำแหน่งทางการตลาดสูงกว่าสำหรับตลาดโลกอย่าง Accent ก็เตรียมที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้

ที่มา: Motor1