Hyundai Elantra รถยนต์ C-segment ตัวถังซีดานที่วางขายมายาวนานกว่า 7 รุ่น ซึ่งในรุ่นปัจจุบัน ได้เปิดตัวเมื่อปี 2020 วางจำหน่ายในตลาดเกาหลีบ้านเกิดด้วยชื่อรุ่น Avante ซึ่งยังมีการทำตลาดในอเมริกาเหนืออยู่ในปัจจุบัน และด้วยความนิยมของรถซีดานที่มีแนวโน้มลดลง ทำให้ทาง Hyundai จึงต้องรีบปรับโฉมและปรับปรุงออฟชั่นและเทคโนโลยีให้ทันต่อการแข่งขันที่ดุเดือด
แนวทางการออกแบบใหม่ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวกว่าที่เคย ไฟหน้า LED ที่มีทั้งแบบ Projector และ Multi-reflector ตามแต่ละรุ่นย่อย เพิ่มเติมเส้นสายที่กันชนหน้า-หลัง ใหม่ สำหรับด้านหน้ามีการแบ่งกระจังหน้าออกเป็น 2 ส่วน บน/ล่าง เพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับด้านท้าย ที่ปรับรายละเอียดแผงดิฟฟิวเซอร์ใหม่ ขยายขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมเพิ่มเติมพื้นที่สีดำ
สำหรับออฟชั่นทันสมัยที่ขาดไม่ได้สำหรับยุคนี้ ได้แก่ กล้องบันทึกภาพด้านหน้าที่ติดตั้งอย่างลงตัวบริเวณกระจกบังลมหน้า พร้อมการเข้าถึงคลิปที่บันทึกได้จากโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชั่น เพิ่มความสะดวกไปอีกขั้นด้วยกุญแจ Digital key ที่สามารถสั่งการล๊อค-ปลดล๊อค รวมไปถึงการแชร์กับสมาชิกใสครอบครัวได้สูงสุดกว่า 7 ท่าน
ไฮไลท์อยู่ที่ฟังก์ชั่นระบบปรับอากาศ After-Blow เพื่อลดความชื้นในระบบปรับอากาศโดยจะทำงานหลังจากดับเครื่องยนต์และผ่านไปเป็นระยะเวลา 30 นาที เพื่อให้ไอระเหยในแผงคอยล์เย็นหายไปโดยธรรมชาติ จะมีระบบไล่ความชื้นที่หลงเหลืออยู๋ในระบบ โดยมีการผสมอากาศจากภายนอกเข้ามาในแผงคอยล์เย็น เพื่อป้องกันการสร้างตัวของเชื้อรา
โดยที่มีระบบตรวจวัดกระแสได้ที่ใช้สำหรับระบบฟังก์ชั่นต่างๆ ทำให้คลายกังวลในเรื่องไฟแบตเตอรี่หมด จนการเดินทางสะดุดได้
ภายในมาพร้อมกับงานออกแบบเรียบหรู เพิ่มเติมความสบายยามขับขี่ด้วยเบาะนั่งด้านหลังพร้อมระบบอุ่น พร้อมวัสดุหุ้มภายในบุนุ่มรอบคัน
ขุมพลังใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ เรียง ความจุ 1.6 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตร เป็นทางเลือกในรุ่นเริ่มต้น พร้อมทางเลือกเชื้อเพลิง LPG สำหรับประเทศเกาหลี
สำหรับเวอร์ชั่นตัวแรง Elantra N จะมีการปรับโฉมในภายหลัง โดยทาง Hyundai ยังยืนยันที่จะผลิตเวอร์ชั่นตัวแรงที่ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไปอีก 1 เจเนอเรชั่น
ที่มา: Motor1