หลังจากออกมาเผยแนวทางการพัฒนารถสปอร์ตในอนาคตอันใกล้นี้ ว่าทางค่ายจะก้าวเข้าสู่ยุคของขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่ายรถสปอร์ตกระทิงดุจากอิตาลีอย่าง Lamborghini จึงได้ฤกษ์เปิดตัวงานวิศวกรรมของขุมพลังแห่งอนาคต โดยใช้ชื่อว่า LB744 ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V12 อันเลื่องชื่อ พ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 3 ตัว เพื่อสร้างพละกำลังสูงสุดได้กว่า 1,000 แรงม้า
ไฮไลท์อยู่ที่ขุมพลังนี้ถูกออกแบบมารองรับระบบ Plug-in hybrid เพื่อนำมาติดตั้งลงในรุ่นถัดไปของ Aventador ประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 6.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ที่มีน้ำหนักเบาลงกว่า 218 กิโลกรัม มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 813 แรงม้า ที่ 9,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 725 นิวตัน-เมตร ที่ 6,750 รอบ/นาที โดยสามารถเร่งรอบเครื่องได้สูงสุดที่ 9,500 รอบ/นาที ที่มากกว่าขุมพลังเดิม 769 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที ในรุ่นพิเศษอย่าง Invencible และ Autentica
ทำให้เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ มีพละกำลังเทียบเคียงกับ Essenza SCV12 ที่พกแรงม้ามามากกว่า 818 ตัว สำหรับลงสนามแข่งเท่านั้น
เครื่องยนต์ตัวนี้จะส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัวที่เพลาล้อคู่หน้า และ อีก 1 ตัวที่เพลาล้อคู่หลัง ทั้งหมดนี้ผสมผสานกำลัง และมีการจัดการพลังงานอย่างชาญฉลาดภายใต้สภาวะการขับขี่ที่แตกต่างกัน โดยใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch 8 จังหวะ ที่มีน้ำหนักเพียง 193 กิโลกรัม
เพื่อให้สามารถให้พละกำลังรวมได้มากกว่า 1,000 แรงม้า ภายใต้การส่งพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ความจุ 3.8 kWh ซึ่งติดตั้งอยู่ที่กลางลำตัวในอุโมงค์เพลากลาง สามารถชาร์จด้วยไฟ AC กำลังสูงสุด 7kW ให้เต็มภายในเวลา 30 นาที พร้อมนำชุดขับเคลื่อนชุดนี้ไปติดตั้งใน Huracan ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้เป็นชุดส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถทำงานในโหมด EV ที่ความเร็วต่ำได้ โดยเฉพาะขณะถอยหลัง จะใช้เพียงมอเตอร์คู่หน้าเท่านั้น
ผลลัพธ์จากการออกแบบและติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ทำให้สามารถลดการปล่อยมลภาวะลงไปได้กว่า 30% เมื่อเทียบกับ ขุมพลังของรุ่น Ultimae ทั้งหมดนี้เพื่อทำให้รุ่นเปลี่ยนโฉมของ Aventador กลายเป็นรถซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมขุมพลัง V12 Plug-in hybrid หลังจากที่เปิดตัวขุมพลัง hybrid ไปก่อนหน้าในรุ่น Sián FKP
ที่มา: Motor1