โหมกระแส Opel Insignia และ Astra จนติดลมบนระดับหนึ่งเรียบร้อยแล้วคราวนี้ภาระสำคัญของ Opel ก็คือการกระตุ้นยอดขายรถเอสยูวีคันเก่งอย่าง Opel Antara และรถซับคอมแพคท์ขายดี Opel Astra ให้ติดลมบนนานจนกว่าจะถึงปลายอายุการตลาด

เริ่มจาก Opel Antara Minorchange รถเอสยูวีที่ถูกสร้างบนพื้นฐานร่วมกับ Chevrolet Captiva C100 หรือถ้าจะให้เรียกให้เข้าใจง่ายมันก็คือนำ Captiva มาออกแบบโครงสร้างด้านท้ายเสียใหม่ดี ๆ นั่นเอง ความเปลี่ยนแปลงหลักหนีไม่พ้น ชุดกระจังหน้าออกแบบใหม่ล้ำสมัยขึ้น สวยแล้วยังช่วยลดอันตรายขณะชนคนเดินทางเท้า, เปลี่ยนชุดกันชนหน้า เพิ่มช่องดักลมหน้าทรงยิ้มดู พร้อมช่องไฟตัดหมอกหน้าดูคล้าย Mazda !! ส่วนบั้นท้ายเปลี่ยนแปลงแค่ลายไฟท้ายใหม่

ภายในห้องโดยสารปรับปรุงแผงคอนโซลกลางให้ดูสวยงามขึ้น, ปรับปรุงคุณภาพวัสดุภายในให้ดีขึ้น และติดตั้งระบบเบรคมือไฟฟ้าให้ด้วย

ในเมื่อ Chevrolet Captiva Minorchange ยังเปลี่ยนขุมพลังได้ Opel Antara Minorchange ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร CTDI มีให้เลือก 163 แรงม้า (PS) และ 184 แรงม้า (PS) และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรปรับปรุงสมรรถนะเป็น 170 แรงม้า (HP) จับคู่เกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

คันต่อมา Opel Corsa Minorchange ก็ปรับโฉมเสียทีหลังจากวางจำหน่ายในปี 2006 นับนิ้วสิริรวม 4 ปีถ้วนพอดี ความเปลี่ยนแปลงแรกที่เห็นชัดก็คือโคมไฟหน้าทรงใหม่มีย้อยหยดน้ำพอประมาณพร้อมกระจังหน้าทรงเอกลักษณ์ Opel ยุคใหม่ พร้อมกันชนหน้าออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ต ดูเผิน ๆ เหมือนกับ Mazda 2 Minorchange ราวกับแกะ

ภายในห้องโดยสารถูกปรับปรุงให้ดูดียิ่งขึ้น เพิ่มขอบโครเมี่ยมช่องแอร์ดูสปอร์ตขึ้น ย้ายตำแหน่งหน้าจอสัมผัสจากบริเวณด้านบนคอนโซลกลางให้อยู่ใต้ช่องแอร์ จอสัมผัสใหญ่ขึ้นและปรับปรุงซอฟท์แวร์ระบบนำทางให้แสดงผลได้ทั้งแบบ 2 มิติและ 3 มิติ อีกทั้งยังเพิ่มพอร์ต USB สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงได้ ปุ่มปรับแอร์ก็ปรับปรุงให้ดูสวยถูกใจวัยรุ่นมากขึ้น

ขุมพลัง Opel Corsa Minorchange นำเสนอเครื่องยนต์บล๊อกใหม่ล่าสุดนั่นก็คือเครื่องยนต์ดีเซล 1.3 ลิตร ecoFlex 95 แรงม้า (HP) ดีเด่นด้วยค่าไอเสียต่ำและประหยัดน้ำมันถึง 3.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งเทคโนโลยี Start Stop ให้ด้วย

ทั้งคู่เปิดตัวเงียบ ๆ เช่นนี้คาดว่าน่าจะเตรียมวางจำหน่ายได้ในเร็ววันครับ