งานจัดแสดงรถยนต์ Los Angelis Autoshow ประจำปี 2010 ดูเหมือนจะคึกคักมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมาอันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และที่สำคัญกระแสตอบรับของมหาชนในการจัดงานแสดงรถยนต์ตกแต่ง SEMA Show 2010 ก็ทิ้งท้ายได้อย่างสวยงามและจุดประกายให้งานแสดงรถยนต์ต่อจากนี้คึกคักมากขึ้น
จำนวนของดีที่นำมาให้ยลโฉมต้องทำใจเล็กน้อยเพราะว่าหลาย ๆ ค่ายนำของดีขยักไปอวดกันในต้นปีหน้าเสียมากกว่า ดังนั้นจึงมีรถรถยนต์รุ่นใหม่และรถต้นแบบอวดโฉมระดับ World Premier ราว 20 คัน และรถยนต์หรือรถต้นแบบที่จัดแสดงครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาอีก 30 คัน
รถที่นำมาเปิดตัวในงานล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้น แต่ค่ายที่โหมเปิดตัวรถใหม่และรถต้นแบบในงานนี้กลับไม่ใช่ค่ายรถอเมริกัน Big 3 ทั้งหลายแต่กลับเป็น Nissan ที่ส่งรถให้ดูถึง 5 รุ่นด้วยกัน ส่วนค่ายรถอื่นก็ส่งรถต้นแบบหรือรถใหม่เฉลี่ยค่ายละ 1 คันเท่านั้น
Acura
งานนี้ไม่มีการส่งรถใหม่อะไรนอกจาก Acura TSX Minorchange ที่ปรับโฉมแค่เพียงชุดกันชนหน้าเปลี่ยนทรงช่องติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าและช่องดักลมเสียใหม่ , เปลี่ยนลายล้อแมกซ์ใหม่ และเปลี่ยนรายละเอียดไฟท้ายใหม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ภายในห้องโดยสารปรับโทนสีใหม่ ปรับปรุงการเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารที่ดีขึ้น พร้อมทั้งขยายความละเอียดหน้าจอแสดงผล LCD-TFT ให้มีความคมชัดขึ้นอีก 400% ทั้งหมดทั้งมวลน่าจะมีอิทธิลต่อ Honda Accord เวอร์ชันยุโรปไม่น้อย
Cadillac
แบรนด์รถหรูที่ขึ้นชื่อว่าเป็นขวัญใจ Gangster ชาวอเมริกันผิวสีและมักมีรถยนต์ในสายการผลิตที่ดูสง่าและสะท้อนถึงความเป็นเจ้าพ่อเอามาก ๆ ทำเอาผู้ชมและพวกเราผิดคาดตาม ๆ กันเนื่องจาก Cadillac ส่งรถต้นแบบรถนั่งขนาดเล็กเน้นเฉิดฉายภายในเมืองที่มีนามว่า Cadillac Urban Luxury Concept
ไม่แน่รถคันนี้อาจจะไปถูกชะตากับกลุ่มลูกค้าเดิมก็ได้ แต่เชื่อลึก ๆ ว่า GM ก็คงอยากขยายฐานลูกค้า Cadillac ถึงต้องพัฒนารถต้นแบบคันนี้ มิติความยาวตัวถังจัดอยู่ในระดับซับคอมแพคท์ด้วยความยาว 3,835 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,446 มม. โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ Art&Science อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว Cadillac
บานประตูคู่หน้าเปิดแบบขากรรไกร ภายในห้องโดยสารล้ำยุคมากและบรรจุได้ 4 คน ไฮไลต์สำคัญก็คือขุมพลัง Hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์บล๊อก 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ประกบกับมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเร่งคาดว่าน่าจะเป็นแบบ Mild Hybrid จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch มีอัตราสิ้นเปลืองภายในเมือง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 27.6 กิโลเมตรต่อลิตร
Chevrolet
ในที่สุด Chevrolet ก็จัดการเปิดตัว Camaro Convertible เสียทีหลังจากเปิด Teaser ยั่วน้ำลายแฟน ๆ นานข้ามปีกันเลย จุดเด่นของมันก็คือการออกแบบหลังคาผ้าใบให้มีน้ำหนักเบาแต่เก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้ไม่แพ้หลังเหล็กพับได้เลย รวมไปถึงการเสริมโครงสร้างตัวถังและลดการบิดตัวของตัวถังด้วยสตรัทรูปตัว V ใต้พื้นรถ
ขุมพลังมีให้เลือกถึง 3 บล๊อกได้แก่ 3.6 ลิตร 312 แรงม้า, 6.2 ลิตร 400 แรงม้าและ 6.2 ลิตร 426 แรงม้า
Chrysler
น่าแปลกแทนที่ Chrysler จะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มาอวดโฉมในงานนี้กลับเลือกเปิดตัว Chrysler 200 โฉมใหม่ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Chrysler Sebring ผู้ไม่อาจผ่าปราการรถซีดานจากญี่ปุ่นและเกาหลีไปได้เลย รูปโฉมโนมพรรณมาในสไตล์ Chrysler ยุคใหม่ที่น่าดึงดูดใจทั้งภายนอกและภายใน
Chrysler 200 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร ที่พร้อมจับคู่กับ
เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ โดยมีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือกใช้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์
เบนซินแบบ V6 Pentastar ขนาด 3.6 ลิตร
Honda
ในที่สุดรถต้นแบบไฟฟ้าพร้อมวางจำหน่ายคันแรกก็เปิดเผยโฉมต่อสาธารณะกำนัลเสียทีนั่นก็คือ Honda Fit EV ไม่มีอะไรมากเพียงแค่นำตัวถัง Honda Fit/Jazz ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ Honda เคลมว่ามีสมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน 2.0 ลิตร
Honda Fit EV ทำความเร็วสูงสุด 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถือเป็นค่าเฉลี่ยที่รถไฟฟ้าส่วนใหญ่พึงกระทำได้ ระยะทางวิ่งสูงสุด 160 กิโลเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดได้แก่โหมดประหยัด Econ, ขับขี่ปกติ Normal และขับขี่แบบสปอร์ต Sport
นอกจากนี้ Honda ยังอวดโฉมพื้นตัวถัง Plug-in Hybrid สำหรับรถยนต์นั่งขนาดกลางในงานนี้ด้วย คุณสมบัติเด่นคือการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ซึ่งน่าจะเป็นระบบ Full Hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน 2.0 ลิตร i-VTEC จับคู่เกียร์ E-CVT
Kia
แบรนด์นี้ไม่มีรถใหม่มาอวดโฉมมีแต่ Kia Optima Hybrid ที่ใช้ขุมพลังร่วมกับ Hyundai Sonata Hybrid ชนิดยกทั้งดุ้น ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน 2.4 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงตรงและมอเตอร์ไฟฟ้า 40.2 แรงม้า ผสานกำลังจนมีความแรงถึง 206.2 แรงม้ากันเลย
Mazda
Mazda Shinari Concept ชัดเจนแล้วว่ารถต้นแบบคันนี้คือการแสดงออกให้โลกรู้ว่าเส้นสายรถ Mazda ตัวต่อไปว่ามันเป็นยังไง “จิตวิญญาณแห่งความเคลื่อนไหว”หรือ Kudo เป็นคำใจความหลักของแนวคิดการออกแบบนี้ ที่ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวทางธรรมชาติเหมือนกับแนวคิด Nagare แต่เป็นความเคลื่อนไหวในด้านวิทยาศาสตร์ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ประการได้แก่ ความเร็ว, กาลเวลา และความลุ่มหลง
Mercedes-Benz
คันแรกมาพร้อมรถต้นแบบหน้าตาแปลก ๆ ชื่อ Mercedes-Benz BIOME Concept ถ้าให้อ่านชื่อน่าจะอ่านว่า Bio-Me นะครับ รถต้นแบบหน้าตาเหมือนปลากระเบนคันนี้เป็นรถที่ชนะการประกวดการออกแบบระดับประชาชนทั่วไป Mercedes-Benz คงมองเห็นโอกาสในด้าน Packaging ของรถคันนี้จึงสานต่อให้กลายเป็นรถต้นแบบคันจริงขึ้นมา
จุดเด่นของมันนอกจากรูปร่างหน้าตาที่แปลกและล้ำสมัยแล้ว น้ำหนักของมันก็เบาแค่ 454 กิโลกรัมเท่านั้น ต้องขอบคุณกระบวนการสังเคราะห์เคมีชีวิภาพจนได้สาร BioNectar4534.
ส่วนอีกคันหนึ่งคือ Mercedes-Benz CLS63 AMG แรงจัดด้วยเครื่องยนต์ 5.5 ลิตร 518 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ SpeedShift อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากคิดว่ายังไม่แรงพอก็ต้องเจอเวอร์ชันปรับจูนให้เสร็จสรรพจนแรงถึง 550 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Mitsubishi
งานนี้ตั้งความหวังสูงสุดไว้กับ Mitsubishi i-MIEV เวอร์ชันตลาดอเมริกาเหนือที่ขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่พอ ๆ กับรถขนาด A-Segment ระดับโลก หวังให้ลูกค้าอเมริกันสนใจและสั่งซื้อรถคันนี้กัน ห้องโดยสารก็ออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อเอาใจรสนิยมอเมริกันโดยเฉพาะ
Nissan
กลายเป็นว่า Nissan คือด่ายรถดาวเด่นในงานเพียงแต่ผู้เดียวเพราะพี่เขาเหมาเปิดตัวรถรุ่นใหม่และรถต้นแบบ 3 รุ่นและอีก 2 รุ่นใหม่ที่พร้อมวางจำหน่าย รวมแล้วก็ 5 รุ่นด้วยกัน รถใหม่และรถต้นแบบล่าสุด 3 คันก็ล้วนแต่น่าสนใจทั้งนั้น
Nissan Ellure Concept รถต้นแบบซีดานยุคใหม่ของ Nissan เส้นสายต่าง ๆ จะได้เห็นกับรถที่กำลังวางจำหน่ายแน่นอน งานออกแบบ Nissan อ้างว่าเน้นสมดุลด้านอารมณ์และความีเหตุผลมากที่สุด เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ชอบการปรุงแต่งและมีใจกบฎเนือง ๆ อยากให้จับตารถคันนี้ไว้ให้ดีนี่คือเส้นสายของรถคอมแพคท์คันใหม่รหัส L12F ที่มาแทนที่ Tiida Latio, Bluebird และ Sentra เตรียมวางจำหน่ายในไทยปี 2012
Nissan Quest เล่นง่ายด้วยการจับ Nissan Elgrand รถตู้ขายดีโฉมใหม่ล่าสุดมาแปลงหน้าและท้ายให้เข้ากับรสนิยมชาวอเมริกัน อันที่จริง Nissan ควรจะจับยุบรถหลายรุ่นให้เป็นคันเดียวกันได้ตั้งนานแล้ว ผลตอบรับดีกว่า Quest รุ่นเดิม ขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร 253 แรงม้าพร้อมเกียร์ XtronicCVT
คันสุดท้ายเป็นรถที่สร้างความอึ้งให้แก่นักข่าวมากที่สุดคือ Nissan Murano Cross Cabriolet ครอสโอเวอร์เอสยูวีเปิดประทุนกับเขาได้ด้วย มาในรูปลักษณ์รถยกสูงเปิดประตูได้แค่ 2 บานเท่านั้น Nissan ไม่หวังยอดขายมากนักเพราะตั้งราคาไว้ 46,300 ดอลลาร์ระดับเดียวกับรถสปอร์ต
Porsche
Porsche ส่ง Cayman R ให้เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นด้วยการตกแต่งภายนอกสีสันเขียวมะนาว ติดตั้ง Anti rollbar ทำให้ความสูงลดลงจาก Cayman S อีก 20 มิลลิเมตร ติดตั้งเครื่องยนต์ 3.4 ลิตร 330 แรงม้า พร้อมเกียร์ PDK
Range Rover
Range Rover ส่ง Evoque 5 ประตูตะลุยงานนี้โดยเฉพาะ แม้จะเพิ่มบานประตูคู่หลังแต่บุคลิคของ Range Rover Evoque ก็ยังเป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นเยาว์ที่มีแนวหลังคาลาดเทดุจรถคูเป้ โดดเด่นด้วยเส้นบ่าและขอบกระจกรถยกสูงขึ้นจนมีเนื้อที่กระจกน้อยดูปราด เปรียว คล่องตัวเหมาะสมกับการเป็นรถประหยัดน้ำมัน ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถ Range Rover รุ่นพี่มากมาย เพียงแค่เพิ่มเติมเนื้อที่ใช้สอยและความอเนกประสงค์มากกว่าเดิม
ขนาดห้องโดยสารของ Range Rover Evoque เวอร์ชัน 5 ประตูมีขนาดใหญ่โตกว่าเวอร์ชันคูเป้ 3 ประตูอย่างรู้สึกได้ไล่ตั้งแต่ความสูงห้องโดยสารเพิ่มขึ้น 30 มม. ห้องผู้โดยสารตอนหลังมีความกว้างหัวไหล่ 50 มม. เพิ่มความปลอดโปร่งด้วยกระจกหลังคายาวไปถึงห้องผู้โดยสารตอนหลัง
Saab
Saab ภูมิใจเสนอ 9-4X รถตัวลุยที่ Saab พัฒนาเอง ซึ่งจะเต็มเปี่ยม ไปด้วยจิตวิญญาณของ Saab ที่โขกเอามาจาก Aero x concept แบบเต็มๆ ด้านงานวิศวกรรมของตัวรถ เริ่มด้วยเครื่องยนต์ 2 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร มาพร้อมแรงม้า 265 แรงม้า สร้างอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.0 วินาที
และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.8 ลิตร พร้อมเทอร์โบ สร้างแรงม้า 300 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร
ที่พร้อมมาในรอบเครื่องยนต์ 2,000-5,000 รอบ/นาที ส่งผลให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ที่ 8.3 วินาที
พร้อมประจำการในรุ่นแรงสุดจาก 9-4X ในรหัส Aero
Subaru
Subaru Impreza Design Concept ถูกพัฒนาขึ้นตามสโลแกนแบรนด์ Subaru ใหม่ว่า Confidence in Motion “มั่นใจในการเคลื่อนไหว” ก็น่าจะบ่งบอกความเป็น Subaru ทั้งในอดีตและยังจะส่งผลต่อก้าวใหม่ในอนาคตอีกด้วย
บุคลิค Subaru Impreza Design Concept เปี่ยมไปด้วยความสปอร์ตเต็มขั้นถึงขั้นออกแบบให้รถคันนี้กลายเป็นรถแนวซีดาน คูเป้ขนาดย่อมกันเลย แต่ใช่ว่าจะหันไปหาความสปอร์ตจนละทิ้งความสะดวกสบายในการขับขี่ไป เมื่อเป็นเช่นนั้นทีมงาน Subaru จึงต้องออกแบบรถคันนี้ให้ลงตัวทั้งสองด้านทั้งสมรรถนะอันเร้าใจ, ความปลอดภัย, การขับขี่ที่สนุกสนานและความปลอดโปร่งของห้องโดยสารที่รองรับผู้ใหญ่ถึง 4 คน
ดีไซน์ด้านหน้าดูละม้าย Legacy โฉมที่แล้วและโฉมปัจจุบันผสมกับความทันสมัยและเส้นสายอันดูมีมิติมากกว่า เดิม คมสันด้วยโป่งล้อหน้าและหลังหนาเด่นทำให้รถดูโดดเด่นเพิ่มขึ้นแม้เส้นสายตัว รถจะดูเรียบ ๆ ไม่มีอะไรให้นูนเว้ามากนัก
Toyota
หลังจากซื้อหุ้นกิจการ Tesla เจ้าแห่งรถสปอร์ตไฟฟ้า Toyota ก็ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการจับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าจาก Tesla ไปติดตั้งใน Toyota RAV4 เสีย เพื่อเตรียมทำตลาดภายในปี 2012 สเปคเบื้องต้นไม่ค่อยมีอะไรมากนัก บอกได้แค่ระยะทางวิ่งสูงสุด 160 กิโลเมตร
Volkswagen
ค่ายนี้ผิดคาดที่คิดเรานึกว่าจะเปิดตัว Volkswa Jetta ตัวถังคูเป้หรือแม้กระทั่งรถซีดานขนาดใหญ่ในโครงการ NMS ในงานนี้พร้อมกับ Volkswagen EOS โฉมใหม่เสียอีก ถึงอย่างไรก็ไม่น่าจะเสียเที่ยวมากนักเมื่อ Volkswagen เปิดเผยภาพพรีเซนเทชั่นของ Jetta Coupe ให้ช่างภาพได้ชักภาพลงสื่อกันสนุกสนาน
จุดเด่นของ Volkswagen EOS คือขุมพลัง 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ จับคู่เกียร์ DSG ทั้งแรงและประหยัดพอสมควร