ดับ = คือนิยามของเอสยูวีที่พยายามจะทำตัวเป็นรถเปิดประทุน รถที่เข้าข่ายนิยามนี้คือ Nissan Murano
Crosscabriolet ที่เรียกว่าไม่ประสบความสำเร็จจนเกือบเก็บเข้ากรุแทบไม่ทัน สาเหตุสำคัญอาจเป็นเพราะมันน่าจะมา
ผิดเวลาและที่สำคัญคือความไม่ลงตัวของดีไซน์

ในเมื่อ Range Rover ก็ถือเป็นผู้นำเทรนเอสยูวีหรูแฟชั่นจนคนนิยมทั่วโลกกันขนาดนี้ เขาก็อยากจะสร้างตลาดใหม่ที่
แตกต่างมากขึ้นไปอีกโดยอาศัยบทเรียนความผิดพลาดของผู้อื่นก่อนจนกลายมาเป็น Range Rover Evoque
Convertible

โชคดีที่ Range Rover Evoque ไม่ได้มีดีไซน์โค้งมนในตอนแรก มิเช่นนั้นสภาพคงดูไม่จืดเหมือนกับเอสยูวีเปิดประทุนรุ่น
ที่ผ่านมา

Range Rover Evoque Convertible เคยอวดโฉมในคราบรถต้นแบบเมื่อตอนต้นปี 2012 แต่เวลาที่หายไป 3 ปี พวก
เขามิได้นั่งเอ้อละเหยแต่อย่างใด พวกเขาก็ต้องค้นหากรรมวิธีพัฒนาหลังคาผ้าใบให้ดูลงตัวมากที่สุดจนกระทั่งพวกเขา
สามารถแก้ไขวัสดุหลังคาพร้อมกับแก้ไขกลไกการพับหลังคาโดยใช้กลไก Z-Fold เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อพับเก็บหลังคาลงแล้ว
จะไม่มีสิ่งใดเกะกะสายตา ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบเวอร์ชันต้นแบบแล้ว รถคันขายจริงจะพับเก็บหลังคาเนียนเรียบกว่าอย่าง
เห็นได้ชัด

ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มพับเก็บหลังคาไฟฟ้าได้จากคอนโซลกลาง สามารถพับเก็บได้แม้ขณะวิ่งด้วยความเร็ว 48 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง ใช้เวลาเปิดประทุน 18 วินาที และใช้เวลาปิดประทุน 21 วินาที วัสดุหลังคาผ้าใบมีชั้นเก็บกั้นเสียงที่ทำให้มั่นใจ
ได้ว่ามันจะภายในห้องโดยสารที่เงียบสงบเหมือนรุ่น 5 ประตู

ข้อเสียของรถเปิดประทุนคือการเบียดบังเนื้อที่ห้องสัมภาระ แต่รถคันนี้ก็พยายามออกแบบเผื่อให้มีเนื้อที่ด้านท้ายวาง
สิ่งของได้ 251 ลิตร

วิศวกรของ Land Rover ได้ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยคุ้มครองตอนพลิกคว่ำ โดยมีโรลบาร์อลูมิเนียมเด้งรับที่ติดตั้งบริเวณด้าน
ท้ายตัวรถเมื่อมีเหตุการณ์พลิกผัน

Range Rover Evoque Convertible มีน้ำหนักตัวถัง 1,936 กิโลกรัม สำหรับเวอร์ชันสหรัฐอเมริกาจะติดตั้งเครื่องยนต์
เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 240 แรงม้า (BHP) แรงบิด 340 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ สามารถทำ
อัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภายในห้องโดยสารหมดกังวลเพราะมันก็เหมือนกับ Evoque มาตรฐานนั่นแหล่ะ ด้วยหน้าจอสัมผัส InControl Touch
Pro แต่สำหรับรุ่นออพชั่นรองลงมาก็ได้หน้าจอ 8 นิ้วไป, สามารถสั่งออพชั่นระบบเครื่องเสียง 12 ลำโพงโดย Meridian
ได้

ระบบความปลอดภัยก็สำคัญมาก ๆ สำหรับ Range Rover Evoque Convertible คือมันติดตั้งถุงลมนิรภัยเบาะนั่งตอน
หน้าที่ปกป้องทรวงอกและศีรษะ ขณะที่ระบบอิเล็กทรอนิคส์จะคอยตรวจจับว่าเมื่อไรที่เกิดอุบัติเหตุหรือพลิกคว่ำ ก็
อนุญาตให้ถุงลมนิรภัยระเบิดได้ และจะคอยไม่ให้มันระเบิดสุ่มสี่สุ่มห้าในขณะขับรถทางออฟโรดแบบสุดเหวี่ยง

Range Rover Evoque Convertible เตรียมส่งให้ลูกค้าไฮ ๆ ตั้งแต่กลางปี 2016 เป็นต้นไป

ที่มา : Worldcarfans