อันที่จริงพวกเราก็ทราบกันแล้วว่า Honda ประเทศญี่ปุ่นเลิกวางจำหน่าย Honda Civic เจเนเรชั่นปัจจุบันรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในหรือที่ชาวไทยนิยมเรียกกันว่า Civic รหัสตัวถัง FD จนเหลือแต่เวอร์ชัน Hybrid ขายดูต่างหน้าตาจนกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนโฉมปีหน้า

แต่ก็ยังไม่มีข่าวยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Honda หรือสำนักข่าวใด ๆ ในญี่ปุ่นว่า Honda จะทำอย่างไรกับอนาคตของ Civic ตัวต่อไปในตลาดญี่ปุ่นดี?

ล่าสุดสำนักข่าวธุรกิจชื่อดัง Nikkei รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดว่า Honda ตัดสินใจยุติการผลิต Civic จากตลาดญี่ปุ่นแน่นอนแม้ว่าเจเนเรชั่นต่อไปจะเตรียมเปิดตัวภายในปีหน้าอยู่รอมร่อแล้วก็ตาม

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Honda ตัดสินใจเลิกขายตระกูล Civic ทิ้งอย่างไม่ใยดีก็เพราะยอดขาย Honda Civic ในตลาดญี่ปุ่นน้อยเอามาก ๆ โดยเฉพาะเดือนตุลาคมขาย Honda Civic เวอร์ชันปกติเพียงแค่ 182 คันซึ่งถือเป็นยอดขายอยู่ในอันดับท้ายสุดของรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment !! และ Honda Civic Hybrid ขายได้เพียง 270 คัน

ส่วน Honda Civic Hybrid เจเนรชั่นปัจจุบันก็จะขายต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนโฉม หลังจากนั้น Honda จะยุติการทำตลาด Civic ในตลาดญี่ปุ่นทันที เป็นการปิดฉากชื่อชั้น Honda Civic อย่างไม่ค่อยสวยงามเท่าไรนัก

แม้เนื้อหาข่าวนี้จะสั้นเอามาก ๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้คนในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกจับตามองอย่างไม่กระพริบตา เพราะชื่อของ Civic ไม่ใช่แบรนด์เนมกระโหลดกะลาที่ไหนแต่เป็นแบรนด์เนมที่ทำให้ Honda ก้าวผงาดในตลาดสหรัฐอเมริกาและเอเชียอย่างสง่าผ่าเผย ที่สำคัญ Honda Civic นับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ทำให้ Honda ลืมตาอ้าปากในอุตสาหกรรมยานยนต์ในญี่ปุ่นภายในปี 1972 จน Honda Civic กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมของคนทั่วโลกไม่แพ้ตระกูล Corolla ของ Toyota

ปัญหาสำคัญของตลาด C-Segment กับรถยนต์ญี่ปุ่นที่จะต้องประสบปัญหากันทุกค่ายและต้องฝ่าวิกฤตความเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ก็คือ ความต้องการรถคอมแพคท์ในตลาดญี่ปุ่นสวนทางกับความต้องการในตลาดโลกนับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นไป

กลยุทธ์การแก้ปัญหาเหล่านี้ก็น่าสนใจ บางค่ายก็ผสมผสานความต้องการของลูกค้าทั่วโลกและญี่ปุ่นได้ดีด้วยการพัฒนารถยนต์ 2 เวอร์ชัน ต่างกันแค่ขนาดตัวถังและดีไซน์บางส่วนอย่างเช่น Toyota Corolla บางค่ายก็หันมาพัฒนารถคอมแพคท์เอาใจตลาดญี่ปุ่น 100% แล้วส่งทำตลาดโลกก็ไม่ประสบผลสำเร็จอย่าง Nissan Tiida

ขณะที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นค่ายอื่นตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า “ทิ้ง” ตลาดรถคอมแพคท์ญี่ปุ่นอย่างไม่สนใจใยดีสู้นำเงินไปพัฒนารถสำหรับความต้องการลูกค้าตลาดโลกยังเห็นผลกำไรมากกว่าเอาใจตลาดญี่ปุ่นหลายเท่านัก