เทคโนโลยีแบตเตอรี่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ใครหลายคนอาจคาดไม่ถึง โดยเฉพาะแบตเตอรี่แบบ Solid State ที่ค่ายรถยนต์ต่างมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการผลิตแบบจริงจังได้ หลังจากเทคโนโลยีนี้เป็นเพียงแค่งานวิจัยที่รอคอยการนำมาใช้อยู่แรมทศวรรษ

ล่าสุดทางค่ายญี่ปุ่นที่เป็นผู้บุกเบิกวงการรถ EV อย่าง Nissan ก็ได้ออกมาประกาศทิศทางการดำเนินงานและเปิดตัวรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2026-2028 ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การเตรียมเปิดตัวแบตเตอรี่แบบ Solid State ที่ทาง Nissan ตั้งใจให้เป็นตัวชูโรงสำหรับการบุกตลาดรถไฟฟ้า โดยมีฐานการพัฒนาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น

โดยขนาดของเซลล์แบตเตอรี่ประเภท solid state นี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแบบแรกที่เคยพัฒนามาก่อนหน้านี้ จากขนาดเพียงเม็ดกระดุมไปจนถึงขนาด 10 ตารางเซนติเมตร และล่าสุดกับความสำเร็จที่สามารถทำให้มีขนาดเท่า Laptop 1 เครื่องได้ เพื่อให้มีความจุต่อพื้นที่ได้สูงสุด

สิ่งที่ Solid state ของ Nissan แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ อย่างชัดเจน ก็คือในส่วนประกอบทางเคมีภายในเซลล์ จะไม่มีของเหลวบรรจุอยู่ภายในแม้แต่น้อย ขณะที่ของเจ้าอื่นๆ ยังคงมีหลงเหลืออยู่บ้าง หรือที่เรียกว่าเป็นแบบ semi-solid state พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพความจุหรือ Energy density ขึ้นเป็นสองเท่า และยังสามารถประจุไฟได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีก 3 เท่า โดยที่มีต้นทุนลดลงจากแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ถึง 50%

สาเหตุที่ทาง Nissan ต้องการกำจัดของเหลวออกจากเซลล์ เพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยจะลดอัตราการระเบิดได้อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากไม่มีการเดือดของของเหลวภายในเซลล์

โดย Nissan วางแผนที่จะแบ่ง Solid State ออกเป็น 2 ขนาด เพื่อใช้กับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ต้องการระยะทางวิ่งสูงสุด พร้อมความสามารถในการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 400kW สำหรับอีกประเภทจะติดตั้งอยู่ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ยังคงเป็นปริศนาว่าจะใช้ชื่อรุ่นอะไร

สิ่งที่ยืนยันได้อย่างแน่ชัดแล้วว่า รถยนต์ที่จะติดตั้งแบตเตอรี่ Solid State นี้จะถูกสร้างขึ้นบน Platform ใหม่หมดจด ในโรงงานแห่งใหม่ที่ถูกสร้างด้วยเม็ดเงินลงทุนที่พร้อมจะเนรมิตกระบวนการผลิตใหม่ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่ประเภทใหม่นี้

อย่างไรก็ตาม Nissasn ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ยังคงพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะลดการใช้แร่ Cobalt ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในด้านทรัพยากรที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งทั้งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทั้ง 2 แบบ จะพร้อมเปิดตัวในรถยนต์ที่จำหน่ายจริงในปี 2028 นี้

ที่มา: Carscoops