หลังจากบรรดาค่ายรถรายงานยอดขายกันอย่างต่อเนื่อง คราวนี้เป็นคิวของ Honda ที่สาวกบ้านเราให้การตอบรับเป็นอย่างดี มียอดขายรถยนต์นั่งในระดับหัวแถว ขณะที่ยอดขายรวมทั่วโลกของปี 2022 นั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ด้วยอัตราส่วนลดลงเมื่อเทียบกับปี 2021 กว่า 6.4% จากยอดขายจำนวน 3,870,161 คัน ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้วนับตั้งแต่ปี 2019

อย่างไรก็ตามยังคงมีข่าวดีให้ชื้นใจอยู่บ้าง เนื่องด้วยโรงงานในประเทศญี่ปุ่นกลับมียอดส่งมอบรถยนต์เป็นอัตราส่วนมากกว่าปี 2021 อยู่ที่ 4.6% จากจำนวนรถที่ออกจากสายพานการผลิตทั้งหมด 643,973 คัน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นรถยนต์สำหรับการส่งออกอยู่ 76,704 คัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปี 2021 ท่ามกลางผลกระทบในวงกว้างของการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์สำหรับประกอบรถยนต์

 

ในส่วนของโรงงานทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาที่สามรถผลิตรถยนต์ได้เป็นจำนวน 831,908 คัน ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนลดลงที่ 2.9% อย่างไรก็ตามยอดขายตลอดปี 2022 ในสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากกว่ายอดผลิตเล็กน้อยที่ 983,507 คัน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายของปี 2021 ซึ่งทำสถิติไว้ที่ 1,466,630 คัน

หากพิจารณายอดขายจากจำนวน 983,507 คัน จะแบ่งออกเป็น Honda จำนวนกว่า 881,201 คัน และ Acura จำนวน 102,306 คัน โดยรุ่นที่ขายได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้น รถ SUV อย่าง CR-V ที่ขายไปมากกว่า 238,155 คัน ซึ่งยังถือว่าน้อยกว่าปีก่อนหน้าอยู่เป็นอัตราส่วนถึง 34.1%

 

สำหรับ Acura ค่ายรถหรูที่อาจไม่ได้สร้างยอดขายมากมายนัก ก็มีรถ SUV หัวหอกอย่าง MDX ที่ขายไปได้มากกว่า 46,425คัน ซึ่งก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ด้วยอัตราส่วนลดลงกว่า 22.7% เมื่อเทียบกับปี 2021

โดยหลังจากนี้ ทั้ง Honda และ Acura จะเดินหน้าเปิดตัวขุมพลังไฟฟ้าและ Hybrid อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอเมริกาเหนือที่เตรียมเปิดตัว Civic e:HEV หลังจากวางจำหน่ายในภูมิภาคอื่นๆ ไปเรียบร้อยหมดแล้ว ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งตัวถังซีดานและ Hatchback

 

ในส่วนของรถ EV ฝาแฝดรุ่นใหญ่ตัวถังยาวกว่า 5 เมตร ภายใต้ระยะฐานล้อยาวมากถึง 3,094 มิลลิเมตร อย่าง Honda Prologue และ Acura ZDX ที่ถูกพัฒนาร่วมกับ GM บนงานวิศวกรรมพื้นฐาน Ultium platform ซึ่งก็ใกล้จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเต็มที่แล้ว

สำหรับสาวกที่ชอบการขับขี่แบบเร้าใจไม่พึ่งพามอเตอร์ไฟฟ้าก็เตรียมพบกับ Acura Integra Type S หรือ honda Civic Type-R ในเวอร์ชั่นที่หรูหราและขนาดตัวใหญ่มากขึ้น โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์บล๊อคเดียวกัน ให้กำลังสูงสุดกว่า 300 แรงม้า พร้อมทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ในรุ่น A-Spec เช่นเคย

ที่มา: Honda