ในยุคที่บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ต่างมุ่งไปที่การพัฒนาและวิจัยขุมพลังไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หลากหลายเทคโนโลยี พร้อมกับออกมาประกาศจุดยืนที่จะจำหน่ายเฉพาะรถ BEV กันอย่างเนืองแน่น นับตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป แต่ทว่า พลังงานทางเลือกที่ยังคงมีค่ายรถยนต์บางราย เช่น BMW Toyota และ Hyundai ที่ยังเดินหน้าวิจัยและพัฒนา ก็คือพลังงานจากแก๊สไฮโดรเจน ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนตัวรถ ซึ่งต้องใช้ถังบรรจุแก๊สออกแบบเป็นพิเศษที่สามารถทนแรงดันสูงได้
อย่างไรก็ตาม ยานยนต์ที่ใช้แก๊สไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ยังคงต้องการระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับได้แพร่หลายมากกว่าในปัจจุบัน เนื่องด้วยปริมาณรถยนต์บนถนนที่ยังคงเป็นชนกลุ่มน้อย รวมไปถึงความร่วมมือที่ยังจำกัดอยู่ในวงแคบเท่านั้น
อีกประเด็นหนึ่งที่มีการถกเถียงกันในวงกว้าง คือพื้นที่ซึ่งถังบรรจุแก๊สไฮโดรเจนถูกนำไปติดตั้งนั้นมีจำกัด ทำให้หลายค่ายออกมาให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีนี้ไม่เหมาะสมกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็ก เนื่องจากไม่มีพื้นที่มากพอ
หนึ่งในผู้บริหารบริษัทรถยนต์ที่คิดเห็นไปทางเดียวกันได้แก่ Thomas Schäfer หรือ CEO ของ Volkswagen group ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อยานยนต์สัญชาติเยอรมัน Autobild เมื่อครั้งออกงานที่ CES เดือนมกราคม 2023 ไว้ว่า
“เทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนยังคงมีข้อจำกัดและไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้งานในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทั้งราคาต้นทุนที่สูงกว่า ความสามารถในการแข่งขันที่เทียบไม่ได้กับขุมพลังไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ และที่สำคัญการใช้พื้นที่สำหรับถังบรรจุแก๊สที่มากเกินกว่าจะง่ายต่อการออกแบบรถยนต์ขนาดเล็ก ความเป็นไปได้จะอยู่ที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มากกว่า จึงไม่น่ามีความเป็นไปได้ในทศวรรษนี้ และทาง Volkswagen ยังไม่สนใจที่จะเอาด้วยในปัจจุบัน”
ซึ่งสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ที่ทาง Matthias Rabe หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ Volkswagen ได้กล่าวไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ว่าเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนยังไม่ใช่คำตอบของรถยนต์พลังงานทางเลือกภายใต้แบรนด์ VW
หากใครจะต่อว่าหรือด่วนสรุปถึงแนวทางการพัฒนารถนี้ของ Volkswagen คงต้องพิจารณากันใหม่ เนื่องจากทางค่ายเคยศึกษาและเปิดตัวรถต้นแบบที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนมาแล้วกว่า 2 รุ่น ได้แก่ Passat HyMotion และ Golf Estate HyMotion เมื่อปี 2014 ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 134 แรงม้า เป็นตัวขับเคลื่อนโดยมีถังไฮโดรเจนที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาแต่แข็งแรงติดตั้งอยู่ที่พื้นตัวรถ โดยที่ยังมีแบตเตอรี่ Lithium-ion เป็นแหล่งเชื้อเพลิงสำรอง จนกระทั่งออกมายืนยันในปี 2021 ว่า ทั้ง Volkswagen และ Audi จะไม่จับเทคโนโลยีนี้ในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
ที่มา: Carscoops