Honda บริษัทที่เติบโตจากยานพาหนะ 2 ล้อ จนกระทั่งเข้าร่วมวงการ Motorsport และได้รับชื่อเสียงโด่งดังด้านขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน รวมไปถึงยานพาหนะ 4 ล้อ ในระยะเวลาต่อมา จนถึงปัจจุบันนี้ โลกกำลังหมุนเข้าสู่ดวงดาวที่เต็มไปด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วน แต่ Honda เองก็ไม่อยู่เฉย ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งฝั่งอเมริกาที่ได้ GM เป็นผู้ถ่ายทอดและแชร์เทคโนโลยี Ultium platform สำหรับรถ SUV ขุมพลังไฟฟ้าล้วนไซส์ใหญ่อย่าง Pilot และเวอร์ชั่นหรูภายใต้แบรนด์ Acura
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้จับมือกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง SONY ร่วมกันพัฒนารถ EV แนวคิดใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ เป็นบริษัทชื่อว่า Sony Honda Mobility (SHM) ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 10,000 ล้านเยน (ราว 2,600 ล้านบาท) และมีสัดส่วนการลงทุนระหว่าง Sony Group Corporation และ Honda Motor ฝั่งละ 50% เท่ากัน ภายใต้ชื่อแบรนด์ AFEELA เตรียมวางจำหน่ายในปี 2025
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาทีมวิศวกรภายในองค์กร ที่ทาง Honda ยังไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดของทีมรุ่นใหม่ที่ทำงานภายใต้ Honda โดยเฉพาะ จนกระทั่งล่าสุด ทาง Honda ได้เปิดเผยกับสื่อยานยนต์ว่า กำลังรวมทีมพัฒนายานพาหนะขุมพลังไฟฟ้าล้วนโดยเฉพาะ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์เท่านั้น โดยมีกำหนดการ Kick off ตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 นี้เป็นต้นไป รวมไปถึงมีการปรับแนวทางการบริหารธุรกิจระดับมหภาค ให้สอดรับกับแผนงานการพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ ในอนาคต
ด้วยแผนงานที่สร้างและคิดค้นเพื่อรองรับธุรกิจยานพาหนะขุมพลังไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่รองรับตั้งแต่ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และยานพาหนะรูปแบบอื่นๆ เช่น Snowmobile และ รถ ATV เป็นต้น ภายใต้ทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มุ่งไปที่เป้าหมายเดียวกัน
หลังจากที่ Honda ได้ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ที่เตรียมจะเปิดตัวยานพาหนะขุมพลังไฟฟ้าเป็นจำนวนกว่า 30 รุ่น วางจำหน่ายทั่วโลก ภายในปี 2030 นี้ ที่รวมรถยนต์หลากรูปแบบ ตั้งแต่รถ Kei-car ขนาดเล็ก ไปจนกระทั่งรถสปอร์ตขุมพลังไฟฟ้า
Honda ทุ่มเม็ดเงินลงทุนกว่า 38 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.3 ล้านล้านบาท) สำหรับเป็นเงินอัดฉีดเพื่อให้เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้ส่งต่อไปยัง รถ EV อีกจำนวน 2 รุ่น สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ พร้อมด้วยรถ EV สำหรับตลาดจีนอีกกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2027
ผลพวงจากการเดินหน้าพัฒนาขุมพลังไฟฟ้าอย่างเต็มกำลัง ก็คือการเกิดขึ้นของงานวิศวกรรม e:Architecture platform ที่จะนำมาใช้สำหรับรถขุมพลังไฟฟ้าล้วนโดยเฉพาะ ที่จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ Honda ปรับกลยุทธ์การบริหาร ได้ควบรวมการบริหารงานเหลือไว้เป็น 3 ภูมิภาคใหญ่ๆ ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ ภูมิภาคจีนแผ่นดินใหญ่ และสุดท้ายภูมิภาคเอเชีย – โอเชียเนีย ที่ควบรวมตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาใต้และยุโรป ภายใต้การดูแลของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายยอดผลิตรถ EV จำนวนกว่า 2 ล้านคัน ภายในปี 2030 และมีที่ยืน ท่ามกลางสงครามรถ BEV จากทั่วทุกมุมโลก ด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังคน กำลังเงิน และวางแผนให้รองรับเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา: Carscoops
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Sony Honda เผยโฉมต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรก ภายใต้แบรนด์ AFEELA ขายจริงปี 2025