BMW Alpina B5 GT ได้รับการขนานนามว่าเป็น Alpina ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเปิดตัวในฐานะรถยนต์รุ่นพิเศษผลิตจำกัด สำหรับสีตัวถังมาตรฐานมีทั้งสีน้ำเงิน Alpina Blue และ สีเขียว Alpina Green เสริมด้วยทางเลือกสีอื่นอย่าง สีน้ำเงิน Arctic Race Blue, สีน้ำเงินเข้ม Petrol Mica, สีเขียว Verde British Racing, สีเบจ Chalk, สีแดง Imola Red และสีม่วง Daytona Violet

 

ภายนอกของ BMW Alpina B5 GT ดูไม่แตกต่างจาก B5 ทั่วไปเท่าใดนัก เพราะยังใช้กันชนหน้าพร้อมชายต่อทรงเดียวกัน เสริมด้วยล้อลาย Alpina Classic สีทองไหม้ Maroon Volciano ขนาด 20 นิ้ว ทั้งยังสามารถเพิ่มกราฟฟิกคาดตัวถัง อันเป็นเอกลักษณ์ของสำนักได้ ด้านหลังเปลี่ยนท่อไอเสียใหม่เป็นแบบ Alpina sports ทำจากไททาเนียมพ่นสีดำ แบบปลายกลมคู่ออกสองฝั่ง ให้น้ำเสียงดุดันกว่าที่เคย

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง Nappa พร้อมลายไม้ Anthracite fine wood เป็นมาตรฐาน แต่สามารถเปลี่ยนเป็นหนัง Full Merino หรือ หนังสีน้ำตาลธรรมชาติ Lavalina ได้ เครื่องเสียงเป็นของ Harman Kardon บ่งบอกความพิเศษด้วยการปักชื่อรุ่น B5 GT บนพนักพิงศีรษะ, โลโก้ชื่อรุ่นทำจากโลหะ และหมายเลขประจำรถบนคอลโซลเกียร์

 

ขุมพลังของ BMW Alpina B5 GT เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 634 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร สูงกว่า B5 รุ่นปกติ 9 แรงม้า 50 นิวตันเมตร อันเป็นผลจากการปรับทางเดินไอดีใหม่ พร้อมกับปรับแต่ง software และแรงดันบูสท์ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ จาก ZF ขับเคลื่อนสี่ล้อ สำหรับสมรรถนะแบ่งตามตัวถังได้ดังนี้

  • ตัวถัง 4 ประตู Sedan ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ตัวถัง 5 ประตู Touring ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 322 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

BMW Alpina B5 GT ยังผ่านการปรับแต่งช่วงล่าง ให้การบังคับเลี้ยวและการตอบสนองทำได้ฉับไวขึ้น ช่วงล่างหลังยังปรับลดความสูงลงเพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ส่วนเบรกใช้คาลิปเปอร์ Brembo ขนาด 4 สูบ พร้อมจานเบรกเจาะรูระบายความร้อนขนาด 395 มิลลิเมตร ในด้านหน้า และ 398 มิลลิเมตร ในด้านหลัง

BMW Alpina B5 GT ผลิตจำนวนจำกัด 250 คันทั่วโลก มีให้เลือกทั้งตัวถัง 4 ประตู Sedan และ 5 ประตู Touring พร้อมเปิดรับจองแล้ววันนี้ และจะเริ่มส่งมอบในเดือนกรกฎาคม 2023 สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นในเยอรมนี โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 145,500 ยูโร (ราว 5,186,000 บาท) สำหรับ 4 ประตู Sedan และ 148,500 ยูโร (ราว 5,293,000 บาท) สำหรับ 5 ประตู Touring

 

ที่มา: motor1, carscoops