Mitsubishi Motors North America, Inc. (MMNA) เริ่มทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1981 ด้วยความร่วมมือกับ Chrysler ทำให้มีการหมุนเวียนรถจากแบรนด์ Dodge และ Plymouth แล้วนำมาแปะตรา Mitsubishi ภายใต้เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายจำนวน 70 ราย ในระยะแรก

ดังนั้นหากทางค่ายจะออกรถยนต์รุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ของการทำตลาดในอเมริกาเหนือ ก็คงต้องเข็นออกมาขายตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งเป็นเวลาล่วงเลยมาแล้วกว่า 2 ปี

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าด้วยเหตุอันใดก็แล้วแต่ ทาง Mitsubishi กลับเพิ่งจะเปิดตัว รุ่นพิเศษเพียงหนึ่งเดียวเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี โดยใช้รุ่น Outlander เป็นพื้นฐาน โดยการใช้รุ่นย่อย SEL Premium สีดำ Black Diamond ทำสีหลังคาเป็นสีน้ำตาล Bronze มาพัฒนาต่อยอด ด้วยการเพิ่มเติมป้าย 40th Anniversary Edition บอกความลิมิเตทที่บริเวณเสา C นอกจากนี้ ยังติดตั้งแผ่นสคัฟเพลทที่ชายประตูทั้ง 4 บาน พร้อมไฟเรืองแสงเพิ่มความโดดเด่น

ภายในติดตั้งเบาะนั่งสีดำเดินด้ายสีส้ม พร้อมตกแต่งด้วย หนังสีน้ำตาลอ่อนเพิ่มความหรูหราให้สมฐานะ พร้อมจอกลางระบบ infotainment ขนาด 9 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในบรรดารถ Mitsubishi ทุกรุ่น ติดตั้งการเชื่อมต่อ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมจอ head-up display แบบสี ขนาดใหญ่จุใจถึง 10.8 นิ้ว ทำงานควบคู่กับจอมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว

 

ทางด้านขุมพลังของ Outlander 40th Anniversary Edition PHEV ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4B12 แบบ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 20 kWh สามารถเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางสูงสุด 61 กิโลเมตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า รหัส S91 กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 255 นิวตัน-เมตร และ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง รหัส Ya1 กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 195 นิวตัน-เมตร เมื่อรวมพละกำลังทั้งหมดเข้าด้วยกัน จะให้กำลังสูงสุดกว่า 251 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตัน-เมตร

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเลงรถชาวไทย คงต้องร้องเพลงรอ Outlander รุ่นใหม่นี้กันไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ที่มา: Carscoops