Mercedes-Benz CLA Facelift ปรัมดีไซน์ เพิ่มระบบ Mild-hybrid 48V +14 แรงม้า ในทุกรุ่น ยกเว้นรหัส AMG 45

หลังจากที่มีภาพหลุดของ Mercedes-Benz CLA รุ่นปรับโฉมไปก่อนหน้านี้ ที่ดูจะมองหาความแตกต่างได้ยากเมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน จนกระทั่งสมควรแก่เวลา ที่ทางค่ายดาวสามแฉกได้เปิดตัวรุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการ โดยใจความสำคัญของการปรับโฉมครั้งนี้ ไม่ได้เป็นประจักษ์ให้เห็นชัดเจนนักตามที่คาดการณ์ไว้ โดยจะเน้นไปที่การปรับปรุงเทคโนโลยีด้านขุมพลังเป็นสำคัญ พร้อมอัพเดทระบบ infotainment ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภาพคันจริงที่เห็นอยู่นี้ จะพบว่า มีการปรับปรุงเส้นสายของกระจังหน้าและกันชนหน้า ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย รวมไปถึงลวดลายของกระจังหน้า ที่ทำจากตะแกรงรูปดาวสามแฉกขนาดเล็กจำนวนมาก ในขณะที่ไฟหน้าได้เพิ่มเติมลวดลายเฉพาะรุ่นอยู่ภายในตามสมัยนิยม ด้านข้างยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ด้านท้าย มีการปรับปรุงเส้นสายภายในไฟท้าย รวมไปถึงลวดลายของดิฟฟิวเซอร์ที่บริเวณกันชนหลัง

ในส่วนของสีตัวถังภายนอกในรุ่นปกติ มีการเพิ่มสีโทนน้ำเงินจำนวน 2 สี ได้แก่ Hyper Blue และ Starling Blue พร้อมกับล้ออัลลอยลายใหม่จำนวน 3 ลาย

CLA

งานออกแบบภายใน มาพร้อมจอมาตรวัดขนาด 10.25 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมไปถึงจอกลางที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ MBUX รุ่นล่าสุด พร้อมออฟชั่นเครื่องเสียงจาก Burmester ที่ติดตั้งระบบ Dolby Atmos ซึ่งได้ปรับปรุงภาพกราฟิกและหน้าตาของเมนูต่างๆ ให้มีความทันสมัยและสามารถปรับเปลี่ยนตามใจชอบได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมระบบอุ่นสามารถเลือกเป็นอุปกรณ์เสริม พร้อมวัสดุตกแต่งภายในที่เปลี่ยนมาใช้ลายคาร์บอนไฟเบอร์สีเข้ม หรือลายไม้แบบโปร่งสีน้ำตาล ตลอดจนลายกราฟิกสุดทันสมัยเส้นใยสีน้ำตาล

CLA Shooting Brake

ในส่วนของขุมพลังทั้งเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลทุกความจุ จะได้รับการติดตั้งระบบ Mild-hybrid ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า 48V ทำงานช่วยเสริมพละกำลังในเวลาชั่วขณะ 14 แรงม้า ที่ยังช่วยให้การติดและดับเครื่องยนต์บ่อยครั้ง มีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น

สำหรับระบบความปลอดภัยได้รับการเพิ่มเติมระบบ ช่วยควบคุมตัวรถให้อยู่ภายในเล่นโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบเปลี่ยนเลน ท่ามกลางการจราจรที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วจำกัด นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้อง 360 องศาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

CLA

สำหรับไลน์อัพ AMG ในรุ่น 35 และ 45 S ก็ได้รับการปรับปรุงงานออกแบบรอบคันให้มีความดุดันมากยิ่งขึ้น โดยพิเศษเฉพาะรุ่น 45 S ที่สามารถเลือกติดตั้งแพ็คเกจ AMG Aerodynamics Package Plus ชุดแต่งเพิ่มเติม ซึ่งจะติดตั้งสปอยเลอร์หลังแบบตายตัว ประดุจตัวแข่งในสนาม

ในส่วนของล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น 35 ก็มาพร้อมลายใหม่ให้เลือกทั้งหมดจำนวน 3 รูปแบบ ขณะที่รุ่น 45 S จะได้รับการอัพเกรดเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมออฟชั่นลายสปอร์ตหรู 7 ก้านคู่ให้เสียเงินซื้อเพิ่ม

CLA 35

ภายในได้รับการอัพเกรดเช่นเดียวกับรุ่นปกติทั้งเทคโนโลยีระบบ MBUX รวมไปถึงปรับเปลี่ยนวัสดุหุ้มคอนโซลและเบาะนั่ง และเพิ่มเติมไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารสีส้ม เข้าชุดกับเบาะ Bucket seat สุดสปอร์ตจาก AMG พร้อมประทับชื่อรุ่นไว้ที่หัวหมอน ในขณะที่พวงมาลัยก็เปลี่ยนมาใช้แบบ 3 ก้านลายใหม่ ติดตั้งปุ่มควบคุมแบบสัมผัสทรงกลมสุดล้ำจำนวน 2 วง เพื่อให้การปรับเปลี่ยนการขับขี่เป็นไปได้ตามต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัส

แต่ทว่า จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเช่นเดียวกับกลุ่มพลังรุ่นปกติ ในรุ่น AMG 35 ได้แก่การติดตั้งระบบ Mild-hybrid 48V เพิ่มเติม พร้อมมอเตอร์สตาร์ทที่ใช้กำลังขับจากแบตเตอรี่ ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองขณะขับขี่ในการจราจรคับขัน พร้อมพละกำลังเพิ่มชั่วขณะ อีก 14 แรงม้า

รวมไปถึงรุ่น 45 S ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มแรงม้าจาก 388 เป็น 422 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 480 เป็น 500 นิวตัน-เมตร โดยทั้ง 2 รุ่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual clutch 8 จังหวะ