ยอดขายรถยนต์ที่ออกจากสายพานการผลิตของโรงงานในประเทศจีนตลอดระยะเวลา 11 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน ของปี 2022 ที่ผ่านมา สามารถสร้างสถิติใหม่ได้ที่ 2.785 ล้านคัน ที่ทุบสถิติด้วยอัตราส่วนเพิ่มขึ้นกว่าปี 2021 ถึง 55.3% ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีน หรือ China Association of Automobile Manufacturers (CAAM)
โดยประเทศที่ทางจีนส่งออกรถยนต์ไปได้มากที่สุดจำนวน 10 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก รัสเซียสหราชอาณาจักร เบลเยียม ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลีใต้ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
และ 10 แบรนด์ที่ติดอันดับผู้ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ SAIC Chery Tesla ประเทศจีน Changan Dongfeng Geely Great Wall BAIC JAC และ Sinotruk โดย SAIC ได้ส่งออกรถยนต์เป็นจำนวนมากถึง 784,000 คัน ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าของแบรนด์รถยนต์ที่มียอดส่งออกเป็นอันดับ 2 หรือ Chery
หากคิดรวมยอดส่งออกจาก 10 ผู้ผลิต คิดเป็นจำนวนมากถึง 2.514 ล้านคัน หรือเป็นอัตราส่วนมากกว่า 90% ของยอดส่งออกทั้งหมด
สำหรับกระแสรถยนต์เสียบปลั๊กทั้งแบบ Plug-in hybrid หรือ ขุมพลังไฟฟ้าล้วน ซึ่งมีศัพท์เฉพาะเรียกว่า new energy vehicles (NEVs) ที่มีฐานการผลิตจากโรงงานที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนอยู่มากมาย ก็สามารถสร้างยอดส่งออกรวมได้เป็นจำนวนมากถึง 593,000 คัน โดยเฉพาะยอดกว่า 43.3% ซึ่งมาจากโรงงานของ Tesla
หากพิจารณามูลค่าของตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ เพียงแค่เฉพาะเดือนพฤศจิกายน 2022 ยังสามารถขายไปได้มากกว่า 3.2 เหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 165% จากปี 2021 โดยกลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ประเทศเบลเยี่ยมและสหราชอาณาจักร ที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70%
นอกจากนี้ ยังเห็นทิศทางการทำตลาดของรถยนต์เสียบปลั๊กซึ่งผลิตจากแบรนด์แดนมังกรเข้าจู่โจมตลาดรถยนต์ภูมิภาคยุโรปมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากทางสหภาพยุโรปได้มีนโยบายรณรงค์ให้คนหันมาใช้รถ EV มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการประกาศยกเลิกการทำตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ภายในปี 2035
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ NIO XPeng และ Yoyah ที่ตั้งเป้าทำตลาดในยุโรปเป็นหลัก ที่มีนโยบายการตลาดโดยเฉพาะ ทั้งนำร่องเปิดศูนย์จัดแสดงตามหัวเมืองต่างๆ รวมไปถึงการเดินหน้าออกแคมเปญสนับสนุนการขายอย่างเต็มกำลัง
VOYAH Store แห่งแรกในประเทศนอร์เวย์
ในทางกลับกัน บรรดาผู้ผลิตรถยนต์มังกรที่เป็นรุ่นเก่าแต่ยังเก๋า กลับเลือกที่จะส่งออกไปยังประเทศที่หลากหลายยิ่งกว่า ทั้งในทวีปเอเชียแอฟริกาอเมริกาใต้เป็นต้น ที่เริ่มสร้างยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: Carnewschina