หลังจากปล่อยให้แฟนๆชาวไทยรอเก้อถึง 2 ครั้ง กับรถตรวจการขนาดใหญ่ 3 แถว เน้นความหรูหราพร้อมความบึกบึนจาก Great Wall Motors (GWM) ภายใต้แบรนด์ลูก TANK ที่ขายดิบขายดีในบ้านเกิดด้วยรุ่น 300 จนกระทั่งรุ่น 500 ที่ได้วางจำหน่ายในเวอร์ชั่นเครื่องยนต์สันดาปภายในไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปลายปี 2021
โดยใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 359 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วน platform เป็นแบบ body-on-frame
ในขณะที่ล่าสุดที่งาน งาน 2022 Guangzhou Auto Show ทาง Tank ได้เปิดตัวทางเลือกขุมพลังใหม่ เป็นแบบ Plug-in hybrid (PHEV) ที่พกพาแบตเตอรี่ความจุ 19.94 kWh ซึ่งทางค่ายเคลมว่าสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนเป็นระยะทางได้ไกลเกินกว่า 100 กิโลเมตร
การออกแบบด้านนอกยังคงอ้างอิงจากรุ่นปกติ แบบไม่มีผิดเพี้ยน แน่นอนว่ายังคงไว้ซึ่งความหรูหราไล่ตั้งแต่กระจังหน้าทรงเหลี่ยมสันแบบโครเมียมมันวาวขนาดใหญ่ ที่มีการปรับรายละเอียดซี่กระจังให้เป็นเส้นแนวนอนขนาดเล็กจำนวนมาก พร้อมไฟหน้าทรงเหลี่ยม ที่บรรจุลูกแก้ว LED Projector ทรงเหลี่ยมไว้ภายใน
ด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด19 หรือ 20 นิ้ว รัดด้วยยาง Continental UltraContact UC6 SUV ขนาด 265/55 R19 หรือ 265/50R20 ติดตั้งช่องเสียบปลั๊กชาร์จไว้ที่ด้านข้างตัวรถ ที่รองรับระบบ DC Fast-charge จาก 20%-80% ได้ภายในเวลา 30 นาที หรือชาร์จแบบไฟ AC ได้จนเต็ม 100% ภายในเวลา 3 ชั่วโมง
ด้านท้ายมาพร้อมฝากระโปรงท้ายเปิดแบบปกติ ไม่ใช่แบบด้านข้างเหมือนรุ่นปกติ พร้อมย้ายตำแหน่งยางอะไหล่ไว้ติดตั้งที่บริเวณใต้ท้องรถแทนที่ด้านท้าย ลดความบึกบึนแต่เพิ่มความหรูหราแทน พร้อมไฟท้าย LED Tube ทรงตั้ง ที่หลีกความโดดเด่นให้กับคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียมขนาดใหญ่
มิติตัวถัง:
- ความยาว: 4,886 มม.
- ความกว้าง: 1,934 มม.
- ความสูง: 1,905 มม.
- ฐานล้อ: 2,850 มม.
ภายในมาพร้อมการตกแต่งหรูหราด้วยโทนสีน้ำตาลแดง ตัดด้วยวัสดุลายไม้แท้แบบด้านสีเทา พร้อมจอกลางขนาดใหญ่จุใจถึง 14.6 นิ้ว โดยเลือกที่จะติดตั้งเป็นเอกเทศกับจอมาตรวัดผู้ขับขี่แบบ Full LCD instrument panel ขนาด 12.3 นิ้ว
อีกหนึ่งไฮไลท์คือการติดตั้งนาฬิกาแบบ Analog พร้อมตราสัญลักษณ์ TANK ไว้ที่ตรงกลางคอนโซล ซึ่งทำให้ผู้โดยสารทั้งคู่หน้าและเบาะแถวกลางสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเบาะนั่งรอบคันถูกติดตั้งระบบอุ่นและระบบเป่าลมระบายความร้อนเพื่อเพิ่มความสบายสูงสุดขณะเดินทาง น่าเสียดายที่เบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 ถูกถอดออกไป ทำให้สามารถนั่งได้เพียงแค่ 5 ท่านเท่านั้น
เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีพละกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 408 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านระบบ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) แบบ 9 จังหวะ
- อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.9 วินาที
- อัตราสิ้นเหลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน WLTC ที่ 2.3 ลิตร/100 กม.
ที่มา: Carnewschina