Renault Megane RS เป็นหนึ่งใน Hot Hatch ผู้บุกเบิกในวงการและมีสมรรถนะทั้งการขับขี่และความแรงจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ จนเป็นที่ยอมรับจากสื่อมวลชนยานยนต์ยุโรปมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามทางค่ายตัดสินใจที่จะเก็บชื่อ Renault Sport เอาไว้และเปลี่ยนไปใช้ชื่อ Alpine Cars แทน ซึ่งทาง Renault ประกาศไปเมื่อปี 2021
อีกทั้ง Renault ได้ออกมาประกาศแนวทางการทำตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงของตนในอนาคต ว่าจะกันไปคบขุมพลังไฟฟ้า แทนการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน
อย่างไรก็ตาม แฟนๆของแบรนด์ Renault ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีจำนวนอยู่พอประมาณ กำลังจะมีสิทธิ์ได้ครอบครองรุ่นปิดท้ายของตัวแรงจากตระกูล Renault Sport อย่าง Renault Megane RS Trophy Limited Edition ที่เตรียมมาจำหน่ายในจำนวนจำกัดและเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวญี่ปุ่นได้สัมผัสรถยนต์สมรรถนะสูง ที่ทางตลาดยุโรปอาจไม่ได้ให้กระแสตอบรับที่ดีมากมายนัก
สำหรับการเปิดตัวจะเกิดขึ้นในงาน Tokyo Auto Salon 2023 ที่บรรดาค่ายรถทางเข็นเวอร์ชั่นแต่งพิเศษซึ่งอาจมาในรูปแบบของรถต้นแบบเพื่อแสดงแนวคิดและทิศทางการทำตลาดในอนาคตหรือจะเป็นรุ่นลิมิเต็ดจำนวนจำกัดที่พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ในงานนี้
ถึงแม้ว่าทาง Renault ประเทศญี่ปุ่นยังไม่ได้มีการปล่อยภาพอย่างเป็นทางการของ Megane RS Trophy Limited Edition แต่ทางสื่อต้นทางและให้ข้อมูลว่ารายละเอียดของรถเวอร์ชั่นนี้ฉันไม่แตกต่างไปจาก Renault Megane RS Trophy รุ่นปกติ
ในขณะที่ Renault เตรียมยุติบทบาทของ Megane ลง โดยหลีกทางให้ รถ Crossover รุ่น Megane E-Tech เข้ามาแทนที่ เป็นการปิดตำนานของ Megane ลงที่เจเนอร์เรชั่นที่ 4
สำหรับข้อมูลด้านขุมพลังของ Megane RS Trophy Limited Edition ยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบ Direct Injection กำลังสูงสุด 300 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ 420 นิวตัน-เมตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch 6 จังหวะ ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า
กำหนดการเปิดตัวของ Megane RS Trophy Limited Edition ในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2023 โดยจะจัดแสดงคันจริงคู่กับ Renault Lutecia Rally 5 (Clio สำหรับตลาดญี่ปุ่น) ที่งาน Tokyo Auto Salon 2023
หากใครอยากได้รถยนต์สมรรถนะสูงจาก Renault Sport คงต้องรีบจับจอง Megane RS Trophy เนื่องจากเป็นตัวแรงขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นสุดท้ายของค่ายแล้ว
ที่มา: Carscoops