ค่ายรถไฟฟ้าที่ได้โกอินเตอร์จากการวางจำหน่ายรถ SUV ขุมพลังไฟฟ้ารุ่นแรกอย่าง NIO ES8 ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2018 ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานงานวิศวกรรม generation ล่าสุด NT2.0 โดยมีชื่อเรียกต่อท้ายกลายเป็น ES8 NT2 อีกทั้งยังถือโอกาสเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์รูปทรงเฉี่ยวในแบบ Coupe SUV อย่าง EC7 ที่เน้นความสบายในห้องโดยสารมากกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Power swap Station (PSS) หรือสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Generation ล่าสุด 3.0 ที่ได้รับการอัพเกรดให้สามารถบรรจุแบตเตอรี่ได้จำนวนมากถึง 21 แพ็ค โดยยังสามารถทำการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นจำนวนสูงสุดถึง 408 ครั้งใน 1 วัน ซึ่งทางค่ายจะเริ่มติดตั้งสถานีสับเปลี่ยน generation ที่ 3 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 เป็นต้นไป

 

สำหรับข้อมูลอ้างอิงใน generation แรกสามารถจุแบตเตอรี่ได้เพียงแค่จำนวน 5 แพ็คและสามารถทำการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นจำนวนสูงสุดเพียง 120 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ generation ที่ 2 และทำการพัฒนาและได้เริ่มติดตั้งในภูมิภาคยุโรปเป็นครั้งแรกโดยสามารถบรรจุแบตเตอรี่ได้มากถึง 13 แผ่นและทำการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นจำนวนสูงสุดถึง 312 ครั้งใน 1 วัน

โดยจำนวนสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ในประเทศจีนของ NIO นั้นมีทั้งสิ้น 1,285 แห่งในขณะที่ภูมิภาคยุโรปได้เริ่มติดตั้งไปแล้วเป็นจำนวน 9 แห่ง โดยตั้งเป้าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จเป็นจำนวน 1,700 แห่งในเมืองจีน และ 120 แห่งในยุโรป ภายในสิ้นปี 2023 นี้

สำหรับเทคโนโลยีด้าน Infrastructure อย่างสถานีชาร์จไฟแบบเร่งด่วน NIO ยังได้เปิดตัว Power Charger 3.0 ที่จ่ายกำลังไฟได้สูงสุดถึง 500 kW ภายใต้แรงดันไฟสูงสุด 660V โดยสามารถลดเวลาการชาร์จจาก 10% – 80% เหลือเพียง 12 นาที สำหรับรถ EV ที่รองรับสถาปัตยกรรม 800V นี้ ถึงแม้ว่ายังไม่มีรถ EV รุ่นไหนของ NIO รองรับสถาปัตยกรรมนี้ แต่ทางค่ายได้ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวแบตเตอรี่ที่รองรับแรงดันไฟฟ้า 800V ภายในกลางปี 2024

Nio ES8 NT2

ในขณะที่ ES8 NT2 ที่เน้นจับกลุ่มตลาดรถครอบครัวตัวจริง ด้วย SUV ขนาดใหญ่ พร้อมเบาะนั่ง 3 แถว เบาะแถวกลางจัดเรียงเป็นแบบ Captain seat จนความสบายเทียบเท่ารถ MPV ไปเสียแล้ว ด้วยเบาะนั่งแถวกลางที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบเบาะแยกพร้อมทางเดินทะลุไปยังแถวที่ 3 หรือแบบคั่นกลางด้วยคอนโซลกลางขนาดใหญ่ พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายครบทั้ง 2 ที่นั่ง และออฟชั่นเบาะแบบ Ottoman ที่ให้ผู้โดยสารได้เหยียบขาได้อย่างสบายตลอดการเดินทาง

อย่างไรก็ตามโครงสร้างตัวถังที่ทำจากอะลูมิเนียมที่ถูกผลิตจากแม่พิมพ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 8.8 ตัน อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยี Die casting ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถผลิตชิ้นส่วนกว่า 31 ชิ้นส่วนย่อย ให้รวมเป็นชิ้นเดียว

มิติตัวถัง:

  • ความยาว: 5,099 มม.
  • ความกว้าง: 1,989 มม.
  • ความสูง: 1,750 มม.
  • ฐานล้อ: 3,070 มม.

 

ทางด้านขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ใช้ร่วมกับ EC7 ในส่วนของความจุและระยะทางที่วิ่งได้สูงสุดแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ดังนี้

  • 75 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 465 กิโลเมตร
  • 100 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 605 กิโลเมตร
  • 150 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 900 กิโลเมตร

สำหรับราคาจำหน่ายของ ES8 NT2 ตามแต่ละรุ่นย่อย มีดังนี้

  • รุ่น 75kWh – 528,000 หยวน (2,628,366 บาท)
  • รุ่น 100 kWh – 586,000 หยวน (2,911,681บาท)
  • รุ่น 100 kWh พร้อม Signature edition – 638,000 หยวน (3,170,055บาท)

NIO EC7

ในส่วนของรถ EV ตัวถัง Coupe รุ่น EC7 ที่มีภาพหลุดจากประเทศจีนไปก่อนหน้านี้ ที่มาพร้อมงานออกแบบล้ำสมัย กันชนหน้าแบบทึบ ติดตั้งไฟหน้า LED อัจฉริยะ ด้านบนกระจกบังลมหน้าติดตั้งกล้อง LIDAR และ RADAR ที่สามารถตรวจจับวัตถุและยานพาหนะในระยะไกลได้เป็นอย่างดี ด้านท้ายมาพร้อมเส้นสายลาดเอียง พร้อมค่า Cd. เพียง 0.25 แต่ยังคงเหลือพื้นที่ศีรษะไว้ให้ผู้โดยสารด้านหลังรู้สึกปลอดโปร่ง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับเอนได้ด้วยไฟฟ้า

มิติตัวถัง:

  • ความยาว: 4,968 มม.
  • ความกว้าง: 1,974 มม.
  • ความสูง: 1,714 มม.
  • ฐานล้อ: 2,960 มม.

 

ทางด้านขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 653 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อทั้ง 4 ให้ทะยานจากจุดหยุดนิ่งจนถึงความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 4.1 วินาที ในส่วนของความจุและระยะทางที่วิ่งได้สูงสุดแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ดังนี้

  • 75 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 490 กิโลเมตร
  • 100 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 635 กิโลเมตร
  • 150 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 940 กิโลเมตร

โดยเปิดตัวด้วยรุ่น 100 kWh ที่สามารถเลือกติดตั้งแพ็คเกจ Premier edition ด้วยเบาะนั่งภายในหุ้มด้วยหนัง Nappa ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ระบบสื่อสารและ Infotainment เวอร์ชั่นใหม่ NOMI Mate 2.0 พร้อมอัพเกรดคาลิปเปอร์เบรกเป็นแบบ 6 พ๊อต พร้อมทำสีส้ม Airglow Orange

สำหรับราคาจำหน่ายของ EC7 ตามแต่ละรุ่นย่อย มีดังนี้

  • รุ่น 75kWh – 488,000 หยวน (2,424,744 บาท)
  • รุ่น 100 kWh – 546,000 หยวน (2,712,931 บาท)
  • รุ่น 100 kWh พร้อม Premier edition – 578,000 yuan (2,871,931 บาท)

ขณะที่รุ่น 150 kWh ยังไม่พร้อมวางจำหน่ายในตอนนี้

โดยทาง NIO จะพร้อมส่งมอบ EC7 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 ในขณะที่ ES8 NT2 จะพร้อมส่งมอบในเดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นไป

ที่มา: Carnewschina