ในช่วงครึ่งปีหลังนี้เว็บไซต์ Headlightmag.com รายงานความเคลื่อนไหวของโครงการรถยนต์ซับคอมแพคท์ซีดานคันแรกในชีวิตของ Nissan ภายใต้ชื่อโครงการรหัส L02B ตลอดเวลาตามติดแทบจะทุกฝีก้าว ไม่พลาดสักวินาทีหนึ่งในฐานะเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญของ Nissan เมืองไทยอย่างมาก เพราะนี่คือเป็นรถยนต์ว่าที่อีโคคาร์ตัวถังซีดานคันแรกของเมืองไทยนั่นเอง
โครงการรถยนต์ซีดานขนาดเล็กของ Nissan รหัส L02B ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานตัวถัง V-Platform ร่วมกับ Nissan March เจเนเรชั่นใหม่รหัสพัฒนา B02A รวมไปถึงรถมินิแวนซับคอมแพคท์ที่จะมาแทนที่ Nissan Note และ Nissan Livina รหัสพัฒนา J02C โดยจุดเด่นของรถยนต์ที่ถูกสร้างบนพื้นฐานนี้ก็คือการลดต้นทุนการผลิตได้มากถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับ Nissan March รุ่นเดิม ผลสุดท้ายทำให้ Nissan สามารถตั้งราคาแข่งขันกันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้นกว่าในอดีตที่รถยนต์ Nissan มักมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า Toyota และ Honda จนไม่อาจจะแข่งขันได้เต็มที่นัก
หลังจากที่ผู้อ่านเว็บไซต์รับทราบข้อมูลของ Nissan L02B กันมาในระดับหนึ่งแล้วตั้งแต่แนวคิดการพัฒนา ไล่จนไปถึงการออกแบบที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าตัวรถจะถูกออกแบบให้เอาใจกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มเท่าที่ Nissan พึงจะออกแบบได้ ดีไซน์จะออกแนวไปทางหรูหราเหมือนรถราคาแพงแต่แอบติดความสปอร์ตในเส้นสายจนพอรู้สึกได้
คราวนี้เรามาดูสเปคเบื้องต้นของ Nissan L02B หรือมีชื่อเครื่องหมายการค้าสำหรับตลาดอินเดียและจีนว่า Nissan Sunny ที่ได้มาจากเว็บไซต์ yescar.cn กันดีกว่าครับ
เริ่มจากขนาดตัวถังของรถยนต์คันนี้ทำเอาพวกเราแปลกใจกันมากทีเดียว ไม่นึกว่า Nissan จะพยายามเบ่งขนาดตัวถังให้ใหญ่เทียบเท่ากับ Nissan Tiida Latio อันเป็นรถระดับ B-C Segment เลยทีเดียว ด้วยมิติความยาวตัวถังมากถึง 4,425 มม. ยาวที่สุดในรถระดับ B-Segment Sedan ของโลก !! ความกว้าง 1,695 มม. และความสูง 1,500 มม. และที่น่าตะลึงพรึงเพริดมากที่สุดก็คือความยาวฐานล้อของมันยาวถึง 2,600 มม.!! ซึ่งก็มีความยาวฐานล้อเท่ากับ Toyota Corolla Altis เป็นรถที่คลาสใหญ่กว่าอีกด้วย
แต่ Nissan L02B จะแพ้ Nissan Tiida Latio ตรงที่ความจุห้องสัมภาระที่เล็กกว่าเล็กน้อย คือ 445 ลิตร ขณะที่ Nissan Tiida Latio มีเนื้อที่ห้องสัมภาระ 467 ลิตร หากพิจารณากันดี ๆ ก็ไม่แตกต่างกันทางนัยยะสำคัญอะไรนัก
หากเปรียบเทียบความยาวของรถซีดานระดับ B-Segment ทุกรุ่นในท้องตลาดเมืองไทยก็พบว่ามีความยาวที่สั้นกว่า Nissan L02B ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Toyota Vios ที่มีความยาวแค่ 4,300 มม. Honda City มีความยาว 4,395 มม. Mazda 2 Sedan มีความยาว 4,244 มม. Ford Fiesta Sedan มีความยาว 4,291 มม. และ Chevrolet Aveo มีความยาว 4,310 มม.
นั่นทำให้สามารถสรุปได้ว่า Nissan L02B มีขนาดตัวถังใหญ่ที่สุดในระดับ B-Segment Sedan ของเมืองไทย ที่สำคัญ Nissan L02B ยังมีขนาดใหญ่ “เทียบเท่าหรือใหญ่กว่า” รถยนต์ C-Segment ยุคปี 2000 จนถึง 2006 หลายรุ่นอีกด้วย และแน่นอนเมื่อ Nissan ประเทศไทยจับนำ L02B มาตีตั๋วเด็กใส่เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรเพื่อรับสิทธิ์ภาษีอีโคคาร์ 17% ก็จะทำให้ Nissan L02B กลายเป็นรถอีโคคาร์ที่มีขนาดตัวถังใหญ่สุดจนไม่มีใครเทียบรัศมีความใหญ่ภายใน 6 ปีนี้แน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็ไม่ค่อยแปลกใจมากนักที่ Nissan จึงเลือกนำชื่อ “Sunny” มาประทับร่างทรงของ Nissan L02B กันอย่างไม่ต้องคิดมาก ก็เพราะมันมีขนาดตัวถังพอ ๆ กับ Nissan Sunny โฉมที่เพิ่งจะตกรุ่นไป
ภายในห้องโดยสารของ Nissan L02B ชัดเจนแล้วว่า Nissan เลือกนำชุดคอนโซลของ Nissan March เจเนเรชั่นปัจจุบันมาปรับแต่งในสไตล์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย จุดสังเกตที่เห็นชัดเจนมากก็คือบริเวณแผงคอนโซลกลางที่เปลี่ยนช่องแอร์วงกลมดูคล้ายนกฮูกให้กลายเป็นช่องแอร์ทรงเหลี่ยมมาตรฐาน พร้อมเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงชุดใหม่เน้นความเรียบง่ายขึ้น เพิ่มความหรูหราด้วยแถบโครเมี่ยมด้านข้างคอนโซลกลางอีกด้วย
หากใครคิดว่า Nissan เล่นง่ายเปลี่ยนแค่นี้เองหรอกหรือ ยังไม่จบครับ ลองสังเกตแผงมาตรวัดทั้งหลายกันดูก่อนว่าจะไม่เหมือนกับ Nissan March เลยแม้แต่น้อย Nissan จัดเรียงช่องมาตรวัดความเร็วและมาตรวัดรอบให้ใหญ่โตแยกกันเป็น 2 กลุ่ม พร้อมติดตั้งจอแสดงผลพิเศษออกแบบให้เข้าชุดกันซึ่งก็ดูมีราคาค่างวดมากกว่าเดิม
การออกแบบแผงข้างประตูของ Nissan L02B แตกต่างจาก Nissan March เจเนรชั่นใหม่พอสมควรแม้ว่าจะใช้มือเปิดประตูข้างในทรงวงรีเหมือนกัน แต่ดีไซน์โดยรวมกลับเน้นความหรูหรา ทันสมัย อ่อนเยาว์ หากดูเผิน ๆ ก็น่าเชื่อว่า Nissan ได้แรงบันดาลการออกแบบแผงข้างประตูจาก Honda Civic โฉมปัจจุบันอย่างแน่นอน
ไฮไลต์สำคัญของ Nissan L02B คันนี้ก็คือ การติดตั้งช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลังครั้งแรกในระดับ B-Segment Sedan ในตลาด ดูเหมือนว่า Nissan จะเล่นง่ายนำดีไซน์ช่องแอร์วงกลมของ Nissan L02B และ Nissan March มาติดตั้งไว้อย่างนั้นเลย
สเปคเครื่องยนต์สำหรับตลาดจีนยืนยันแล้วว่าจะต้องติดตั้งเครื่องยนต์รหัส HR15DE บล๊อกใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งวาล์วแปรผันคู่ทั้งฝั่งไอดีและฝั่งไอเสีย และติดตั้งระบบหัวฉีดคู่อันเป็นนวตกรรมใหม่ของ Nissan ทำให้มีพละกำลังถึง 112 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ CVT พร้อมยางและล้อขนาด 185/55R15
แหล่งข่าวกล่าวเสริมว่า Nissan เคลมอัตราสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์บล๊อกนี้ไว้ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือประมาณ 17.2 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบช่วงล่างของ Nissan L02B ไม่แตกต่างจาก Nissan March เจเนเรชั่นล่าสุดเลยแม้ต่น้อย ด้วยช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอสันสตรัท ช่วงล่างหลังทอร์ชันบีม แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าติดตั้งเหล็กกันโคลงหรือไม่
สำหรับตลาดเมืองไทยก็ยังขอยืนยันชัดเจนว่า Nissan L02B จะต้องมาในพิกัดภาษีอีโคคาร์ 17% เหมือนอย่างที่เคยกระทำการ “ตีตั๋วเด็ก” อย่างที่เคยทำมาก่อนใน Nissan March อันเป็นรถเล็กขายดิบขายดีของตน ด้วยสาเหตุด้านการตลาดที่ Nissan ประเทศไทยจำเป็นต้องทำให้ L02B ประสบความสำเร็จ 100% ให้จงได้ เมื่อพินิจในด้านกลยุทธ์ก็อาจจะเป็นกลยุทธ์การทำตลาด Nissan ในไทยที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปีนี้มาเลย
หาก Nissan ประเทศไทยสามารถต่อจิ๊กซอว์ L02B ให้ประสบความสำเร็จนั่นหมายความว่าชื่อและชั้นของ Nissan ในเมืองไทยก็เริ่มเข้าสู่แดนแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจนสามารถต่อกรกับเจ้าตลาดได้ถนัดถนี่ยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาในรอบ 15 ปีนี้ และที่สำคัญ Nissan จะครองความเป็นเจ้าตลาดอีโคคาร์ของเมืองไทยอย่างน้อย 4 ปี
แต่สิ่งที่ผมแอบสงสัยเล็กน้อยนั่นก็คือ หาก Nissan L02B ลงสนามเมื่อไร ลูกค้าชาวไทยจะมองมันว่าเป็นรถเล็กกว่า B-Segment Sedan อยู่หรือเปล่า? เพราะเชื่อว่าหลายคนก็ยังอคติกับรถอีโคคาร์กันอยู่ บางคนก็คงมองด้วยความอคติว่ามันเล็กอยู่วันยังค่ำ ในเมื่อ Nissan L02B มีขนาดตัวถัง “ใหญ่ที่สุดในรถระดับซับคอมแพคท์ซีดาน” ด้วยแล้วหากจะมองว่ามันเล็กก็กระไรอยู่นะครับ
และที่สำคัญในเมื่อตัวถังใหญ่ขนาดนี้แล้วทีมวิศวกร Nissan จะพยายามเซ็ตเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานได้ระดับไหน? รวมไปถึงการจัดการของโรงงานบางนา กม.22 ว่าจะเตรียมการผลิตรถซีดานคันนี้ให้เพียงพอต่อความต้องการได้อย่างไร? ทั้ง ๆ ที่สายการผลิต ณ วันนี้ก็เต็มที่แล้ว