นอกจาก Apple Inc ยังสรรหาผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาในวงการรถยนต์แล้ว Apple ก็ยังมีแผนสำรองอีกว่า หากแผนการ
สร้างรถยนต์ล้มเหลว Apple ก็จะชิ่งไปหาธุรกิจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแทน
ยิ่งนานวัน Apple ก็เป็นองค์กรแห่งความลับที่ต้องรอการเปิดเผยตลอดเวลา คือ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Apple ก็สนใจ
ที่จะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากับเขาด้วย ถึงขั้นดูดบุคลากรสำคัญระดับหัวกะทิจาก Mission Motors จนทำให้บริษัท
ถึงขั้นปิดตัวในเดือนพฤษภาคมกันเลยเพราะไม่มีใครเป็นกลจักรสำคัญในการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ไหน ๆ Apple ก็ทำบาปด้วยการดูดคนจากหน่วยธุรกิจที่ตนเองต้องการจะสร้างจนบริษัทพังพินาศไปแล้ว Apple ก็ยังไม่
หยุดที่จะสะสมบรรดาวิศวกรจากค่ายรถชื่อดังจาก Mercedes-Benz, Ford จำนวนนับโหลอีกด้วย
แหล่งข่าววงใน Mission Motor เผยว่าต้นเหตุของธุรกิจ Mission Motors ที่เกิดจากการระดมระยะยาวล่มสลายก็
เพราะ Apple และบริษัทต้องการผู้เชี่ยวชาญ และรวมถึงความลำบากในการระดมทุน
Derek Kaufman อดีตประธานเจ้าหน้าที่ Mission Motors แสดงความคิดเห็นว่าบริษัทคงไม่อาจอยู่ได้ถ้าขาดบุคลากร
สำคัญและโดนบั่นทอนการระดมทุน
Apple รู้ดีว่า Mission Motors คือบริษัท StartUp ที่รวมกลุ่มนักวิศวกรยอดเยี่ยมเอาไว้ โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญการ
พัฒนารถไฟฟ้า เมื่อ Apple ต้องการพวกเขา Apple ก็ได้พวกเขาไปจริง ๆ
การแย่งตัวนักวิศวกรสายยานยนต์เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในรอบ 25 ปี เหตุการณ์ที่นักวิศวกรถูกซื้อตัวมากที่สุดคือ
Uber ผู้นำแอพพลิเคชั่นคมนาคมเคยซื้อตัวนักวิจัยหุ่นยนต์ในมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon 50 คน เพื่อสร้างระบบขับ
ขี่อัตโนมัติด้วยตนเอง
Jason Forcier ซีอีโอแห่ง A123 ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของโลกได้แสดงความคิดเห็นว่า บริษัท StartUp ขนาดเล็กจะแพ้
ภัยในสงครามการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเงินการลงทุนที่แตกต่างกันมาก ถ้า A123 จะทำอะไรสักอย่างก็
ต้องลงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัท StartUp เล็ก ๆ มีเงินลงทุนเพียงแค่ 10-20 ล้านดอลลาร์ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้เลย
เมื่อเชคข้อมูลจาก CrunchBase เว็บไซต์ระดมทุนเพื่อการพัฒนานวัตกรรมก็พบว่า Mission Motor มีเงินลงทุนพัฒนา
แค่เพียง 14 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
Scot Harden ประธานบริษัท Zero Motorcycles กลับกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ Apple ดึงตัวนัก
วิศวกรเพราะมีฐานการลงทุนที่มั่นคงแล้ว ซึ่งเขามั่นใจว่าการมีนักลงทุนอยู่เบื้องหลังมันคือคำตอบของอนาคต
Apple ไม่ได้ต้องการตัวบริษัท Mission Motors เลยแม้แต่น้อยแต่ Apple ต้องการเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์
สำหรับระบบขับขี่ไฟฟ้าเท่านั้น รวมไปถึงอัลกอริทึ่มสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่และระบายความร้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple ควานหา
Mission Motors เริ่มต้นจากการเซ็นสัญญานักวิศวกรให้ช่วยกันสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกในปี 2007 จน
ออกมาเป็นรถโปรโตไทป์มีระยะทางวิ่งสูงสุด 240 กิโลเมตร
Jeremy Cleland อดีตพนักงาน Mission Motors เผยว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่คลอดออกมามันเป็นรถที่ดีที่สุดเท่าที่
เขาเคยคร่อม แต่ด้วยการสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าขนาดนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อการลงทุน บริษัทก็เลยหันไปสร้างซอฟท์แวร์และ
ชิ้นส่วนเกี่ยวกับรถไฟฟ้าในปี 2010 เพื่อหารายได้มาสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง
แต่ยังไม่ทันไร Mission Motorcycles แผนกที่แยกตัวจากบริษัทเพื่อทำรถจักรยานยนต์จริงจังในปี 2013 ก็ต้องประสบ
ปัญหาล้มละลายจนได้
Mission Motors เป็นบริษัทโชคร้ายสุด ๆ เพราะบริษัทเพิ่งมีดีลกับ Harley-Davidson ราชารถเท่ห์และอื่น ๆ แต่ก็ด่วน
จากไปเสียก่อน
Infield Capital บริษัทลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาควบคุม Mission Motors ก็เล็งสินทรัพย์อันมีค่ามหาศาลทั้งดีไซน์ของ
ชิ้นส่วน, ซอฟท์แวร์, สิทธิบัตรและวิจัยแบตเตอรี่
อย่างไรก็ตาม Seth LaForge วิศวกรผู้พัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ และ Jon Wagner ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมงาน
แบตเตอรี่ประจำค่าย Tesla ก็พากันชื่นชม Mission Motors ว่าเป็นบริษัทเล็กที่มีพนักงานไม่ถึง 50 คนที่มีคุณค่าต่อ
Apple, Google และ Tesla เหลือเกิน
ที่มา : Reuters