กลยุทธ์การยึดครองตลาดรถไฟฟ้าระดับโลกของ Renault-Nissan Alliance กำลังดำเนินการอย่างไม่หยุดยั้ง ขืนหยุดอยู่นิ่งกับที่แค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว ทั้งคู่ก็อาจจะตกบรรลังก์ในอนาคตก็เป็นไปได้เพราะทุกคนย่อมรู้ดีว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของรถยนต์ยุคใหม่คือการเลิกใช้พลังงานปิโตรเคมีทางตรง 100%

 

 

หลังจาก Nissan เปิดเผยโฉมและเตรียมพร้อมการผลิตรถไฟฟ้ารุ่นดัง Nissan Leaf ในขณะนี้ Nissan ก็ไม่รอช้าจึงส่งรถยนต์ไฟฟ้าเสริมทัพกะทันหันโดยที่ไม่เคยแจ้งมาก่อนในแผนธุรกิจใด ๆ นั่นเป็นเพราะว่ายนตรกรรมชิ้นนี้เป็นความร่วมมือกับฝั่ง Renault เป็นหลักยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งเป็นยานยนต์สำหรับใช้ในครัวเรือน 2 ที่นั่งเท่านั้น มิใช่เป็นรถยนต์ 4 ที่นั่งขึ้นไป

Nissan New Mobility Concept คือ 1 ในยนตรกรรมที่ Nissan เคยเปรยไว้นานแล้วว่าพวกเขาอาจจะพัฒนายานยนต์แนว Urban Mobility หรือยานพาหนะสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองเป็นหลัก สำหรับการเดินทางระยะสั้น ๆ ในชุมชนแออัดหรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นยานพาหนะสำหรับต่อยอดการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะโดยมิต้องซื้อรถยนต์นั่งเลยก็เป็นไปได้

รูปร่างหน้าตาของ Nissan New Mobility Concept แค่มองปราดเดียวก็ทราบแล้วว่ามันคือคู่แฝดกับ Renault Twizy เวอร์ชันผลิตจำหน่ายจริงที่เพิ่งอวดโฉมในงาน Paris Motorshow ประจำปี 2010 ไปหมาด ๆ ต่างกันแค่เพียงรายละเอียดด้านหน้าและโลโก้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จุดเด่นของ Nissan New Mobility Concept มี 4 ประการด้วยกัน ได้แก่
1.    นวตกรรม – ดีไซน์ออกแบบมาสำหรับเป็นยานพาหนะนำพาผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 2 ที่นั่ง
2.    ความง่าย – ใคร ๆ ก็สามารถขับขี่ยานพาหนะคันนี้จอดที่ไหนสักแห่งได้ง่าย
3.    ความปลอดภัย – มีมาตรฐานที่เหนือกว่ารถจักรยานยนต์
4.    สะอาด – ไร้มลพิษใด ๆ ขณะขับเคลื่อน

จุดมุ่งหมายสูงสุดของรถไฟฟ้าคันนี้ก็คือ การเชื่อมต่อไร้ขอบเขต ผู้ขับขี่สามารถรับข้อมูลวางแผนการเดินทางและข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะของเรา, สามารถใช้งานได้ 2 โหมดอันได้แก่ โหมดรถยนต์ส่วนตัวในช่วงเช้าหรือเย็น นอกเหนือจากนั้นยานพาหนะคันนี้ก็สามารถให้ผู้อื่นเช่าไปขับในเวลาเร่งด่วนได้ และประการสุดท้ายยานพาหนะคันนี้จะสร้างความศิวิไลซ์แก่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว

ข้อมูลเบื้องต้นของรถคันนี้ทราบแค่เพียงความเร็วสูงสุดที่ทำได้แค่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงระยะทางวิ่งสุงสุด 96 กิโลเมตร ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเมืองใหญ่ได้

ส่วนเรื่องชื่อรุ่นในการทำตลาดและระยะเวลาวางจำหน่ายเชื่อว่าคงต้องรอให้ Nissan แถลงแผนธุรกิจระยะยาวสำหรับปีงบประมาณ 2013 อย่างเป็นทางการเสียก่อน เพราะ Nissan ยืนยันเองแล้วว่ารถคันนี้ยังไม่มีแผนทำตลาดจนกว่าจะหมดปี 2012 ไปแล้ว