รถยนต์ 5 ประตู ขนาดเล็กเป็นที่นิยมอย่างมากในอเมริกาใต้ และหนึ่งในเจ้าตลาดที่นั่นคือ Volkswagen Gol (ไม่ใช่ Golf) ซึ่งกำลังจะยุติการผลิตในช่วงปลายปี 2022 หลังชื่อนี้ทำตลาดมานานถึง 42 ปี เพื่อไม่ให้ส่วนแบ่งทางการตลาดหายไป Volkswagen Polo Track จึงถูกส่งมารับช่วงต่อ โดยแยกรุ่นออกมาต่างหากจาก Polo ทั่วไปซึ่งนับเป็น generation ที่ 6 และทำราคาให้เข้าถึงง่ายกว่า
ภายนอกของ Volkswagen Polo Track แตกต่างจาก Polo ทั่วไป ในส่วนของกระจังหน้าซึ่งไม่มีแถบไฟ LED คาดอีกต่อไป, ลายกระจังหน้าต่างกัน, ไฟหน้า Halogen, ช่องลมกันชนหน้าคนละทรงมาในสีวัสดุดิบ, ไฟท้าย, กันชนหลังซึ่งปรับชายล่างใหม่ และฝาตบสีดำด้านขนาด 15 นิ้ว ส่วนสีตัวถัง ประกอบด้วย สีขาว Solid Crystal White, สีดำ Ninja Black, สีเงิน Metallic Sirius Silver และ สีเทา Metallic Platinum Gray
ห้องโดยสารของ Volkswagen Polo Track มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้เท่าที่จำเป็น และเน้นใช้งานง่ายทั้ง กระจกไฟฟ้าคู่หน้า, พวงมาลัยแบบ multifunction, แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบปุ่มหมุน, วิทยุแบบ 2-din ไม่มีหน้าจอสัมผัส แต่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ USB ด้านวัสดุตกแต่งเน้นเป็นพลาสติกและผ้าสีดำ
ขุมพลังของ Volkswagen Polo Track มีแบบเดียวกับ เครื่องยนต์เบนซิน แบบ MPI flex ขนาด 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 84 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 101 นิวตันเมตร รองรับเชื้อเพลิงทั้งเบนซินและเอทานอล จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ การผลิตจะมีขึ้นที่โรงงานใน Taubate บราซิล แยกกับโรงงานที่ผลิต Polo ทั่วไป สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 79,990 เรอัลบราซิล (ราว 534,000 บาท)
ที่มา: carscoops