Stellantis ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2022 ถึงการยื่นล้มละลายของบริษัทร่วมทุนระหว่างเครือกิจการ Fiat Chrysler Automobiles Co., Ltd. (FCA) ซึ่งในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Stellantis และกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากแดนมังกร Guangzhou Automobile Group (GAC) ซึ่งจดทะเบียนในนาม GAC-FCA ทำหน้าที่ผลิตรถยนต์แบรนด์ Jeep ได้เดินมาถึงจุดจบ โดยการโหมดศักยภาพทางการลงทุน หลังจากได้รายงานผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เนื่องจากบริษัทร่วมทุนนี้ถือเป็นความร่วมมือที่มีอายุยาวนานและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์ของประเทศจีน ย้อนกลับไปถึงปี 1984 เริ่มต้นที่บริษัทชื่อ AMC ซึ่งเริ่มต้นลงหลักปักฐานที่ปักกิ่ง หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนมือถือหุ้น ตั้งแต่ Chrysler ไปจนถึง Fiat ก่อนที่จะเป็น Stellantis ที่เข้ามาควบรวมแบรนด์ Peugeot ด้วยเช่นกันในปี 2021
หากย้อนดูสาเหตุของการแจ้งล้มละลายในครั้งนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นยอดขายที่มีอัตราลดลงกว่า 50% ในปี 2021 จนเหลือเพียง 20,396 เมื่อเทียบกับปี 2020 ภายใต้กำลังการผลิตรุ่น Compass และ Cherokee สำหรับวางจำหน่ายในประเทศจีนโดยเฉพาะ และก็เริ่มลดลงจนเหลือเพียง 2,000 คัน สำหรับทั้งปี 2022
จึงทำให้ Stellantis ได้ตัดสินใจหยุดกิจการของ GAC ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ภายใต้การตัดสินใจของ CEO Carlos Tavares ที่ไม่ได้คาดหวังการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากกิจการดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะเคยมีแผนการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท GAC ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้
ยอดขายของ Jeep ในประเทศจีน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2017-2021
Carlos Tavares ยังเชื่ออีกว่า “การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนและผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติยุโรป กำลังเกิดการคานอำนาจของทั้งสองภูมิภาค เนื่องจากทางผู้ผลิตรถแดนมังกร ก็พยายามที่จะรุกทำตลาดรถยนต์โดยเฉพาะรถ EV เพื่อแข่งขันกับ แบรนด์ระดับโลก ในขณะที่แบรนด์รถยุโรปเอง ก็อยากที่จะมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ประเทศจีน หลังจากนี้ เราอาจจะเห็นนโยบายและการเปลี่ยนแปลงของกำแพงภาษีหรือข้อกำหนดต่างๆ ที่สร้างสมดุลระหว่างสองภูมิภาคได้ดีกว่าปัจจุบัน”
ยิ่งไปกว่านั้น Carlos Tavares ยังมีความกังวลใจถึงอนาคตของการทำตลาดจากแบรนด์รถยนต์ประเทศจีน ที่ในปัจจุบันมีความดึงดูดทางด้านราคา แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่า เมื่อได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดมากยิ่งขึ้น จะกลับลำขึ้นราคารถยนต์จนเทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก หรือไม่”
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ประเทศจีนเคยต้อนรับบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศเพื่อสร้างโรงงาน ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ในหลากหลายมณฑล แต่ในปัจจุบันค่ายรถยนต์ของจีนเองก็มีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดจนสามารถขึ้นมาเทียบชั้นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกเหล่านั้น นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ที่จะทำให้แบรนด์รถยนต์จากจีน เริ่มไม่สนใจการเข้ารวมกิจการกับแบรนด์รถยนต์ระดับโลก ตัวอย่างเช่น Tesla ที่เข้ามาตั้งกิจการ โดยไร้เงาความร่วมมือหรือการร่วมทุนใดๆ
สำหรับลูกค้าของแบรนด์ Jeep ในประเทศจีน Stellantis ยังคงยืนยันการดูแลลูกค้าหลังการขาย แม้ว่าจะหยุดการผลิต ในประเทศจีน แต่ยังคงดำเนินธุรกิจการนำเข้า Jeep รุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะในรูปแบบขุมพลังไฟฟ้าล้วน แน่นอนว่ายังคงให้บริการหลังการขายด้านการซ่อมบำรุงเหมือนเช่นเคย
และในอนาคตอันใกล้นี้โรงงานของ GAC-FCA จะถูกขายทอดตลาด โดยมีผู้สนใจสองอันดับแรกเป็น BYD และ Leapmotor เนี่ยเพื่อเข้าครอบครองโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 164,000 ต่อปี
ที่มา: Carnewschina