หลังจากที่สหพันธรัฐรัสเซียได้เปิดศึกสงครามรบกับยูเครนเป็นเวลายืดเยื้อตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2022 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ของบริษัทรถยนต์ที่มีฐานการผลิต หรือแม้แต่มีเพียงธุรกิจการขายในรัสเซีย ก็ต่างพากันหยุดสายพานการผลิต รวมไปถึงการม้วนเสื่อย้ายหนี ตามสถานการณ์ของโลก

โดยล่าสุดเป็นคิวของ Mercedes-Benz ซึ่งได้ตัดสินใจหนีออกจากรัสเซีย ด้วยการยกเลิกการวางจำหน่ายรถ ภายหลังจากการหยุดการผลิตไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้หยุดส่งมอบรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ไปพร้อมๆ กับการสั่งหยุดผลิตภายในประเทศ

 

จนกระทั่งได้มีการประกาศขายทรัพย์สินของบริษัทให้กับนักลงทุนท้องถิ่นที่สนใจ มีการเตรียมการที่จะขายหุ้นที่อยู่ในบริษัทในเครือให้กับนักลงทุนทั่วไปอีกด้วย

สำหรับตัวแทนจำหน่ายที่สนใจในการเข้าซื้อ กิจการบริษัทในเครือ ได้แก่ กลุ่มกิจการของ Avtodom ซึ่งวางแผนที่จะรวมตัวกับตัวแทนจำหน่ายได้อื่น เพื่อกลับมาดำเนินสายพานการผลิตในโรงงาน ในเขตอุตสาหกรรม Esipovo ทางแถบชานเมืองของ Moscow อีกครั้ง

โรงงานในกรุง Moscow

เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของบรรดาบริษัทรถยนต์ต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในรัสเซีย โดยในระหว่างที่มีการทำสงครามนี้ ทาง Toyota ก็ได้สั่งปิดโรงงานไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 รวมไปถึงบริษัทรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Renault ก็ยังตัดสินใจขายหุ้นไหน บริษัท รถยนต์สัญชาติรัสเซีย Avtovaz ที่มีความร่วมมือกันมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับ Nissan ที่ได้ตัดสินใจขายกิจการในประเทศรัสเซียให้กับทางการของรัสเซียเอง

นอกจากนี้ยังมีข่าวจากทางบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันอย่าง Ford ก็ตัดสินใจที่จะขายหุ้น ในบริษัทร่วมทุนกับบริษัทสัญชาติรัสเซีย เป็นสัดส่วนกว่า 49% ในเดือนตุลาคม 2022 นี้

 

ทั้งนี้หากสถานการณ์ต่างๆของสงครามระหว่างสองประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว ไปในทางบวก ทางบริษัทรถยนต์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น Renault Nissan หรือ Ford ได้ทำข้อตกลงที่จะสามารถหุ้นคืน ภายในสัญญาที่ระบุไว้นับจากวันที่ขายเป็นระยะเวลา 5 ปี

อย่างไรก็ตามทั้งโลกต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของรัสเซียต่อไป ถึงความเปลี่ยนแปลงของ ธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ที่เต็มไปด้วยการลงทุนจากต่างชาติในช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ ว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่

ที่มา: Autoblog , Themoscowtimes , Yahoo , Automotivenews