มาตรฐานควบคุมมลพิษ Euro 7 เป็นที่ถกเถียงมาระยะหนึ่งแล้วว่า อาจเป็นการตอกตะปูฝาโลงให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากมีความเข้มงวดขึ้นสูงมาก ซึ่งหมายถึงการลงทุนมหาศาลหากผู้ผลิตรถยนต์ต้องการทำให้ผ่านเกณฑ์ แต่ด้วยสถานการณ์อันซับซ้อนในปัจจุบัน ได้ทำให้คณะกรรมการเปลี่ยนใจ และลดทอนความเข้มข้นลง ซึ่งนั่นจะเป็นผลดีกับการเงินของผู้บริโภคด้วย
มีรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวจาก Politico ซึ่งระบุว่าได้เอกสารมาจากคณะกรรมการมาตรฐาน Euro 7 มีเนื้อหาว่าทางคณะได้ทำการทบทวนร่างกฎหมายใหม่ เนื่องจากปัญหาด้านรัฐภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจโลก จนมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคภายใต้บริบทของอัตราเงินเฟ้อ หรือสรุปให้เข้าใจง่ายคือคณะกรรมการจะลดความเข้มข้นของการควบคุมเครื่องยนต์สันดาปภายในลงนั่นเอง
ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า การทำให้เครื่องยนต์ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Euro 7 คือการลงทุนมหาศาล ยิ่งหลายประเทศประกาศแบนการขายรถยนต์ใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์สัดาปภายในในปี 2035 ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใด อยากเสียเงินจำนวนมากกับเทคโนโลยีที่ออกขายได้ไม่นาน ต่อให้ทำออกมาจริง สุดท้ายผู้บริโภคก็ได้รับผลกระทบจากราคาจำหน่ายรถยนต์ที่พุ่งสูงขึ้น
คาดว่าร่างมาตรฐาน Euro 7 จะเปิดเผยในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 ซึ่งถูกเลื่อนออกมาหลายครั้งแล้ว จากกำหนดก่อนหน้าที่ระบุว่าจะเปิดเผย ในวันที่ 28 ตุลาคม ส่วนกำหนดการบังคับใช้ในยุโรป คาดว่าจะอยู่ในปี 2025 – 2026 สำหรับปฏิกิริยาจากข่าวนี้ มีรายงานว่าผู้ผลิตรถยนต์ต่างคิดที่จะลงทุน กับขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้าอยู่แล้ว คงเหลือกลุ่ม NGO ที่แสดงความเห็นว่าคณะกรรมการ แคร์ผลกำไรบริษัทมากกว่าสิ่งแวดล้อม
ที่มา: motor1
อ่านข่าว มาตรฐาน Euro 7 อาจทำให้เครื่องยนต์สันดาปสูญพันธุ์ ในปี 2026 ได้ที่
>> https://www.headlightmag.com/news-proposa-of-euro-7-may-lead-to-end-of-ice-new-car/