หลังจากที่ Mercedes-Benz เปิดตัว EQE ตัวถังซีดานเมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 และรุ่นพี่ EQS SUV เมื่อเดือน เมษายน 2022 (มีให้เลือกทั้งเบาะนั่ง 2 และ 3 แถว) จนกระทั่งวันที่ 17 ตุลาคม 2022 (ตามเวลาประเทศไทย) Mercedes-Benz ได้เปิดตัว EQE SUV อย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งเวอร์ชั่นปกติ รหัส EQE 350+ EQE 350 4MATIC และ EQE 500 4MATIC รวมไปถึงเวอร์ชั่นตัวแรงอย่าง EQE 43 4MATIC SUV และ EQE 53 4MATIC+ SUV บนพื้นฐาน Mercedes-Benz EVA2 platform
AMG EQE 53 SUV
งานออกแบบด้านหน้ามีความใหญ่โตเพิ่มขึ้นจากตัวถังซีดาน ไฟหน้า DIGITAL LIGHT กระจังหน้าแบบทึบตามฉบับรถ EV ที่ตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์เล็กๆ เป็นออฟชั่นเสริมและตกแต่งด้วยไฟ LED tube ลากยาวต่อเนื่องจากไฟคู่หน้า คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับรถตระกูล EQ อย่างชัดเจน ไฟท้าย LED แบบ 3D helix design
EQE SUV
กระจกมองข้างติดตั้งที่ตัวถังรถกัน ในขณะที่มือเปิดประตูแบบซ่อนไปกับตัวถังรถเป็นออฟชั่นเสริมที่เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออกตัวรถ และเนื่องจากฝากระโปรงหน้าไม่สามารถเปิดได้เหมือนรถทั่วไป จึงย้ายช่องเติมน้ำปัดน้ำฝนมาไว้ที่ซุ้มล้อหน้าซ้าย
ด้านท้ายมีสัดส่วนที่กระชับ พร้อมไฟท้ายแบบแนวยาวตลอดความกว้างตัวรถ และแน่นอนว่ามีการซ่อนกล้องหลังไว้ที่โลโก้ตราดาว เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก บริเวณกันชนหลังสามารถติดตั้งโครเมียมตกแต่งตามแต่รุ่นย่อยและแพ็คเกจตกแต่งภายนอก
มิติตัวถัง:
- ความยาว: 4,863 มม.
- ความกว้าง: 1,940 มม.
- ความสูง: 1,688 มม.
- ฐานล้อ: 3,030 มม.
- รัศมีวงเลี้ยว: 6.15 ม. / 5.25 ม. (ไม่ติดตั้ง/ติดตั้งระบบเลี้ยวล้อหลังมุม 10 องศา) ในรุ่น EQE SUV และ 5.45 ในรุ่น AMG EQE
- ความจุห้องเก็บสัมภาระ: 520 / 580-1675 ลิตร (เมื่อพับเบาะแถวหลัง)
AMG EQE 53 SUV
ภายในโดดเด่นตามสไตล์ตระกูล EQ-series ยุคใหม่ ด้วยจอขนาดยักษ์เรียงต่อกันแบบไร้รอยต่อที่เรียกว่า MBUX Hyperscreen แบบจอโค้ง OLED ขนาดรวมกว่า 56 นิ้ว (อุปกรณ์มาตรฐานใน EQE SUV 580) ประกอบไปด้วยจอกลางขนาด 17.7 นิ้ว จอฝั่งผู้โดยสารขนาด 12.3 นิ้ว และจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว การควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ในรถผ่านปุ่มแบบ Touch-sensitive หรือการเลือกจากหน้าจอสัมผัสด้านหน้ารถ และยังมีจอแสดงผล Head-up display ขนาดใหญ่ถึง 77 นิ้ว ที่แสดงผลร่วมกับเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) เป็นออฟชั่น และไฟตกแต่งในห้องโดยสาร Active Ambient Lighting จำนวนมากถึง 190 สี ที่ปรับสีตามการเปลี่ยนแปลงของฟังก์ชั่นตัวรถ พร้อม Wireless Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบอัพเดทแบบ over-the-air technology (OTA) และระบบความบันเทิงสตรีมมิ่งเต็มรูปแบบ ZYNC ดูหนัง ฟังข่าว รายการทีวี
EQE SUV
ระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes พร้อมระบบเครื่องเสียง Burmester 3D พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos 360 องศา และ หูฟังไร้สาย รวมทั้งระบบกรองอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL Plus พร้อมแผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) filter คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยลายไม้ด้าน มาพร้อมเบาะนั่งจำนวน 5 ที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าเต็มระบบพร้อม Ambient lighting โดยเบาะนั่งแถวหลังสามารถพับเก็บได้ด้วยอัตราส่วน 40:20:40 พร้อมเอนได้สูงสุด 10 องศา
ขุมพลังและระบบส่งกำลัง
EQE SUV 350+ จะใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อคู่หลัง Electric drivetrain (eATS)
ในขณะที่ EQE SUV 350 4MATIC EQE SUV 500 4MATIC EQE 43 4MATIC และ EQE 53 4MATIC+ จะใช้มอเตอร์คู่หน้า-หลัง Electric drivetrain (eATS) ที่ติดตั้งอยู่บนเพลาด้านหน้า-หลัง เพื่อทำให้เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบแปรผันได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังติดตั้ง Disconnect Unit (DCU) เพื่อตัดการทำงานของมอเตอร์ที่ล้อคู่หน้ายามไม่จำเป็น
โหมดการขับขี่ ECO COMFORT SPORT และ INDIVIDUAL ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC จะเพิ่มโหมด OFF-ROAD ที่ทำงานร่วมกับระบบ Hill-descent control และ ช่วงล่างถุงลม พร้อมแสดงภาพรอบคันจากกล้อง 360 องศา รวมทั้งมุมก้ม-เงย และข้อมูลต่างๆของเส้นทาง รวมทั้งภาพมุมบอด เพื่อให้สามารถขับผ่านอุปสรรคได้โดยง่าย รวมไปถึงระบบเกลี้ยวล้อคู่หลังเป็นออฟชั่นเสริม
EQE SUV 350+
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 292 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 565 นิวตัน-เมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 480-590 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 170 kW นาน 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 220 กม.นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger ใช้ แบตเตอรี่จำนวน 10 เซลล์ ความจุ 90.6 kWh 328V อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าเฉลี่ย (WLTP) 21.8-17.7 kWh/100 กิโลเมตร
EQE SUV 350 4MATIC
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 292 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 459-558 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 170 kW นาน 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 220 กม. นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger แบตเตอรี่จำนวน 10 เซลล์ ความจุ 90.6 kWh 328V อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าเฉลี่ย (WLTP) 22.5-18.5 kWh/100 กิโลเมตร
EQE SUV 500 4MATIC
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 460-547 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 170 kW นาน 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 220 กม. นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger แบตเตอรี่จำนวน 10 เซลล์ ความจุ 90.6 kWh 328V อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าเฉลี่ย (WLTP) 22.7-19.0 kWh/100 กิโลเมตร
AMG EQE SUV 43 4MATIC SUV
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 476 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 431-488 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 170 kW นาน 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 220 กม. นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger แบตเตอรี่จำนวน 10 เซลล์ ความจุ 90.6 kWh 328V อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าเฉลี่ย (WLTP) 25.1-22.0 kWh/100 กิโลเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.3 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
AMG EQE SUV 53 4MATIC+ SUV
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 476 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 375-470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 170 kW นาน 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 220 กม. นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger แบตเตอรี่จำนวน 10 เซลล์ ความจุ 90.6 kWh 328V อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าเฉลี่ย (WLTP) 27.8-22.6 kWh/100 กิโลเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.5 วินาที เมื่อติดตั้งแพ็คเกจ AMG DYNAMIC PLUS
- ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. และ 240 กม./ชม. เมื่อติดตั้งแพ็คเกจ AMG DYNAMIC PLUS
ระบบบังคับเลี้ยว
แร็คแอนด์พิเนียนพร้อมมอเตอร์ผ่อนแรงผสมระบบไฮดรอลิค มาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อคู่หลัง ซึ่งทำมุมเลี้ยวได้สูงสุดถึง 10 องศา ในรุ่นปกติ และ 9 องศาในรุ่น AMG หากใช้ความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม. ล้อคู่หลังจะเลี้ยวในทิศตรงกันข้ามกับล้อคู่หน้า เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและให้วงเลี้ยวที่แคบ แต่ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่านั้น จะเป็นการเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเพิ่มระยะฐานล้อเสมือน ให้รถมีการทรงตัวดีขึ้น
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าแบบ four-link พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
สำหรับรุ่น EQE 43 4MATIC SUV และ EQE 53 4MATIC+ SUV ติดตั้งช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL+ และพิเศษสำหรับรุ่น EQE 53 4MATIC+ SUV มาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัว AMG ACTIVE RIDE CONTROL
และยังมีระบบช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC และ Continuously adjustable damping ADS+ เป็นอุปกรณ์เสริม ที่สามารถปรับความสูงของตัวรถสูงขึ้นอีก 30 มิลลิเมตร
ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 ถึง 22 นิ้ว ซึ่งอย่างหลังสามารถเลือกติดตั้งจานเบรกแบบเซรามิคได้ รวมไปถึงยางสมรรถนะสูงที่ออกมาสำหรับรถ EV โดยเฉพาะอย่าง MICHELIN Pilot Sport EV ในรุ่น AMG EQE 43 SUV และ AMG EQE 53 SUV
ระบบห้ามล้อ
ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมครีบระบายความร้อน
ดิสก์เบรกคู่หลังพร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยจำนวนสูงสุด 8 ตำแหน่ง รวมถุงลมหัวเข่าข้างคนขับและถุงลมระหว่างคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าป้องกันการกระแทกของศีรษะทั้ง 2 ที่นั่ง
- ระบบเตือนวัตถุในมุมอับสายตาด้านหน้า-ข้าง
- ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อผ่านจุดตัดทางแยก Active Brake Assist with cross-traffic functionระบบรักษาระยะห่างรถคันหน้าอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC
- ระบบช่วยนำรถจอดเข้าจอดข้างทางโดยอัตโนมัติ Active Emergency Stop Assist
- ระบบช่วยหักหลบเมื่อเจอคนเดินเท้าและจักรยานตัดหน้า Active Evasive Steering Assist
- ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง Active Lane Keeping Assist
- ระบบตรวจรับการจับความเร็ว Active Speed Limit Assist
- ระบบช่วยเบรกเมื่อเจอการจราจรคับขัน Congestion emergency braking function
- ระบบตรวจสอบยานพาหนะขณะลงจากรถพร้อมระบบแจ้งเตือน Exit warning function when hand moves towards the door handles
- ระบบเคลื่อนตัวตามรถข้างหน้า Extended automatic restart on motorways
- ระบบแจ้งเตือนด้วยแสงจากไฟในห้องโดยสาร Hazard display via ambience lighting
- ระบบช่วยบังคับรถตามการจราจร Active Steering Assist
แพ็คเกจ PRE-SAFE® PLUS และระบบยกตัวรถฉุกเฉินเมื่อเกิดการปะทะด้านข้างฉับพลัน Impulse Side with body-raising function
- ระบบปรับความเร็วให้เหมาะสมกับเส้นทาง Route-based speed adjustment with end of traffic jam function
- ระบบควบคุมความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งและเคลื่อนตัว Active Stop-and-Go Assist
- ระบบควบคุมการจอดรถระยะไกล Remote Parking Assist พร้อมจดจำเส้นทาง Memory Parking Assis และ Valet Parking INTELLIGENT PARK PILOT
กล้องมองภาพ 360 องศา
Mercedes-Benz EQE SUV จะถูกผลิตขึ้นในโรงงาน Tuscaloosa รัฐ Alabama สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นที่เดียวกับ EQS SUV และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ครึ่งปีแรกของ 2023 เป็นต้นไป
สำหรับความคืบหน้าการทำตลาดในประเทศไทยทางทีมงาน Headlightmag จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง
ที่มา: Mercedes