แม้อังกฤษจะเตรียมแบนการจำหน่ายรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ปี 2030 แต่มาตรการสนับสนุนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน อาจดูไม่น่าสนใจเท่าใดนักเนื่องจาก The Royal Automobile Club หรือ RAC ได้รวมรวมสถิติแล้วพบว่าค่าบริการชาร์จไฟ EV แบบชาร์จด่วนแพงขึ้น 42% ส่วนแบบชาร์จด่วนพิเศษเพิ่มสูงขึ้น 25% นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าชาร์จไฟแทบไม่แตกต่างจากราคาน้ำมัน
RAC ได้คำนวณค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยปัจจัยที่ชัดเจนจากการกำหนดให้โจทย์เป็น EV สำหรับครอบครัวทั่วไปใช้แบตเตอรี่ขนาด 64 kWh แล้วใช้บริการแบบ Ultra-Rapid Charge เปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน มีอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 40 ไมล์/แกลลอน (ประมาณ 17 กิโลเมตร/ลิตร) จนได้ตัวเลขค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง/ระยะทาง ดังนี้
- ขุมพลังไฟฟ้า มีค่าเชื้อเพลิง 18 เพนซ์ ต่อ 1 ไมล์ (ราว 7.5 บาท ต่อ 1.6 กิโลเมตร)
- เครื่องยนต์เบนซิน มีค่าเชื้อเพลิง 19 เพนซ์ ต่อ 1 ไมล์ (ราว 7.9 บาท ต่อ 1.6 กิโลเมตร)
- เครื่องยนต์ดีเซล มีค่าเชื้อเพลิง 21 เพนซ์ ต่อ 1 ไมล์ (ราว 8.8 บาท ต่อ 1.6 กิโลเมตร)
RAC ระบุว่าค่าใช้จ่ายรถยนต์ไฟฟ้า EV จะมีผลกระทบต่อผู้ที่ใช้บริการสถานีชาร์จมากที่สุด เนื่องจากภาครัฐได้ขึ้น VAT ค่าบริการชาร์จด่วนเป็น 20% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ผู้ที่ชาร์จไฟ EV จากบ้านจะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า เนื่องจาก VAT ไฟบ้านอยู่ที่ 5% ทั้งนี้ มีการจัดตั้ง campaign ชื่อ FairCharge ขึ้นมา เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐลด VAT ค่าบริการจากแท่นชาร์จจนเท่ากับอัตราไฟบ้าน เพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้ EV มากขึ้น