หลังจากทั้ง 2 ค่าย ได้จับมือกันพัฒนาขุมพลังและรถยนต์ร่วมกันตั้งแต่ปี 2010 ย้อนไปสมัย Carlos Ghosn และ Dieter Zetsche เป็น CEO ของ Nissan และ Mercedes-Benz ตามลำดับ ซึ่งโรงงานดังกล่าวสร้างขึ้นเมื่อปี 2014 ด้วยเงินลงทุนกว่า 319 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ผลิตเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่วางอยู่ใน Infiniti และ Mercedes-Benz รุ่น GLE Sprinter และ Metris
แต่เดิมโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตถึง 250,000 เครื่องยนต์ต่อปี ในขณะที่ปี 2021 ยอดตกลงเหลือเพียง 50,000 เครื่องยนต์ต่อปี ทำให้ไม่คุ้มที่จะดำเนินกิจการต่อไป เนื่องจาก Infiniti ได้ยกเลิกการผลิต Q50 ในปี 2019 ที่ผ่านมา
(โรงงาน Nissan ที่มลรัฐ Tennessee สหรัฐอเมริกา)
ทาง Mercedes-Benz จึงได้ยุติความร่วมมือในอนาคต แต่ยังมีโรงงานที่เมือง Aguascalientes ประเทศเม็กซิโก ที่ทั้งสองค่ายได้ลงเงินทุนไปกว่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่รับผิดชอบการผลิตทั้ง Infiniti และ Mercedes-Benz หลายรุ่น ด้านโรงงานที่มลรัฐ Tennessee ทาง Nissan มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปเป็นโรงงานผลิตขุมพลังรถ EV ด้วยเงินอัดฉีดอีกกว่า 18 พันล้านเหรียญสหรัฐ
(Infiniti Q50)
(โรงงาน Nissan ที่เมือง Aguascalientes ประเทศเม็กซิโก)
ประเด็นสำคัญคือความร่วมมือทั้งสองค่ายในแง่ของการผลิตรถยนต์ ที่มีปัญหาด้านการจัดการ เรื่องจากทั้งคู่มีระบบและแนวทางดำเนินการที่แตกต่างกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์ที่ทั้งสองค่ายร่วมต่อกันมาถึงทางตัน ยิ่งไปกว่านั้นยอดผลิตของรถยนต์ในปี 2021 ที่โรงงานในประเทศเม็กซิโกมีเพียง 98,865 คัน จากแผนที่วางไว้มากถึง 230,000 คัน
ทั้งนี้ต้องจับตามองอนาคตของทั้ง 2 โรงงาน ว่าทาง Nissan และ Mercedes-Benz จะประกาศแผนการผลิตอีกครั้งอย่างไร และยังคงไว้ซึ่งความร่วมมืออยู่หรือไม่
ที่มา: Carscoops