เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศโครงการพัฒนาถนนไฟฟ้า หรือ ‘Electric Highway’ ในถนนเส้นหลักของตน
โดยมุ่งเป้าว่า จะต้องพร้อมรองรับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และในปี 2050 รถยนต์ส่วนใหญ่ในอังกฤษ
จะเป็นรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ลดการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันลง

roadssm-cf18c54da1a45a495f3673dff89a8f05.png
sm1-e9cf777278872cedb9f05038379bf882.png

‘Electric Highway’ ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่า เป็นถนนแบบใหม่ที่ติดตั้งเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า
และตัวส่งกระแสไฟฟ้าใต้ถนน นั่นหมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์จไฟแบบไร้สายได้ ก็จะสามารถ
ขับรถบน Electric Highway โดยที่ทำการชาร์จไฟกลับเข้าสู่ตัวรถได้ตลอดเวลา ซึ่งช่วงระยะแรกจะติดตั้งกับ
เลนซ้ายของถนนก่อน

ที่มาของถนนแบบใหม่นี้ รัฐบาลอังกฤษเล็งเห็นปัญหาการถูกจำกัดระยะทางของรถไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่ที่จำหน่าย
ในตลาดจะอยุ่ที่ 160 กิโลเมตร ซึ่งไม่เพียงพอต่อการขับทางไกลหรือใช้งานมากๆแน่นอน เพราะการชาร์จไฟกลับ
ใช้เวลานาน แถมสถานีชาร์จไฟยังไม่แพร่หลายอีกต่างหาก

ดังนั้น การทำให้ถนนรองรับการชาร์จไฟแบบไร้สาย และทำให้รถไฟฟ้าได้ชาร์จไฟระหว่างการขับขี่บนถนน
น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ทำให้คนตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น โดยรัฐบาลอังกฤษเองมองเห็น
ถึงความเป็นไปได้ และต้องการผลักดันให้ประชากรของตนหันมาใช้รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษน้อยลง

timeline-f3def79073bebd9c2ce3066e50b6d288.png

นอกจากการโครงการพัฒนาถนนแบบใหม่แล้ว รัฐบาลอังกฤษยังมีแผนเพิ่มสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
โดยระยะแรกจะเพิ่มสถานีทุกๆ 32 กิโลเมตรบนไฮเวย์ ซึ่งหากโครงการทั้งหมดนี้สำเร็จได้ด้วยดี จะถือว่า
รัฐบาลอังกฤษแซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาในด้านสาธารณูปโภคที่เอื้ออำนวยให้กับรถไฟฟ้าเลยทีเดียว

เห็นรัฐบาลอังกฤษส่งเสริมเพื่ออนาคตรถยนต์ไฟฟ้าแบบนี้ ก็อดหวังไม่ได้ว่าไทยเราเองจะมีแนวคิดส่งเสริม
ให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันบ้างนะครับ

ที่มา : Upworthy