BYD เป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้ายักษ์ใหญ่แดนมังกร ที่ในวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเนื่องจาก ได้ส่งรถ EV มาวางจำหน่ายในประเทศไทยในเชิงพาณิชย์รุ่น E6 เป็นรถแท็กซี่ ให้บริการอยู่ประปราย ในขณะที่รถรุ่นใหม่ๆของค่ายนี้ เตรียมจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่ รถ Hatchback รุ่น Dolphin หรือซีดานหรูพิกัด C-segment อย่าง BYD Seal

ทางบริษัทแม่ได้ตัดสินใจลุยตลาดต่างประเทศมากขึ้นล่าสุดในวันที่ 21 กรกฎาคม 2022 มีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อจัดตั้งบริษัท BYD Company Limited ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งเปิดตัวรถยนต์จำนวนสามรุ่นที่เตรียมวางจำหน่ายในแดนอาทิตย์อุทัย ประกอบไปด้วย BYD ATTO 3 BYD DOLPHIN และ BYD SEAL

(BYD ATTO 3)

โดย BYD เลือก ATTO 3 วางจำหน่ายเป็นรุ่นแรกในช่วงเดือนมกราคมปี 2023 นี้ ในขณะที่รุ่น DOLPHIN และ SEAL จะตามมาในภายหลังในช่วงกลางและปลายปี 2023 ตามลำดับ

ในขณะที่ตลาดรถ EV ในแดนอาทิตย์อุทัยดูจะซบเซา เนื่องจากค่ายรถบ้านเกิดเองยังคงเน้นการทำตลาดรถ Hybrid และการจะหาจุดชาร์จสาธารณะก็ยังเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับชาวญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น การจะมีที่ชาร์จที่บ้านพักอาศัย คุณจะต้องมีที่จอดรถส่วนตัวก่อน ยิ่งเป็นข้อจำกัดทางกายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นยากที่จะก้าวผ่านไปได้

อย่างไรก็ตามทาง Wang Chuanfu หัวเรือใหญ่ของ BYD ได้กล่าวว่า “ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของรถ EV อย่างครบวงจร ที่มีมากกว่า 27 ปี ของ BYD จะทำให้การเข้าถึงรถ EV ของตลาดต่างประเทศอย่าง ญี่ปุ่น มีแนวโน้มดียิ่งขึ้น เนื่องจากทาง BYD เอง เป็นผู้ครอบครองเทคโนโลยีทั้งโรงสร้างพื้นฐานระบบชาร์จไฟ แบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ และระบบเกี่ยวข้องอื่นๆ ทำให้การบุกตลาดต่างแดนเป็นไปได้อย่างที่ค่ายรถยนต์หลายค่ายทำไม่ได้ เพื่อมอบสิ่งที่ดีกว่าด้วยประสบการณ์การใช้งานรถ EV ที่แตกต่าง”

(BYD Seal)

(BYD Dolphin)

ในขณะที่ระบบการขายและการให้บริการของ BYD ในญี่ปุ่น จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ด้วยการเริ่มต้นใหม่จาก 0 ทำให้สามารถลดปริมาณ Carbon ได้ และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

ปัจจุบัน BYD ทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากว่า 70 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะลดมลภาวะและ Carbon ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยลดโลกร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา: Electriccarsreport