จับไม่ได้ก็ไล่ไม่ทันนะสำหรับกระดานเกม “โกงค่าไอเสีย งานเบิกเนตรนานาชาติ” ที่ Volkswagen Group บังอาจติดตั้ง
อุปกรณ์เบี่ยงเบนค่าไอเสียเจ้าปัญหาเพื่อหวังโกงค่ามลภาวะเมื่อซอฟท์แวร์ตรวจจับได้ว่าคณะกรรมการคุ้มครอง
สิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกากำลังทดสอบรถอย่างหนักหน่วง
ยิ่งสาวไส้ก็ยิ่งเห็นความเน่าเฟะในวงการรถยนต์ที่น่ากลัวไม่แพ้วงการอื่นใด เมื่อ Audi กล้าประกาศยอมรับแล้วว่ามี
รถยนต์ Audi รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ติดตั้งอุปกรณ์เจ้าปัญหานี้มากถึง 2.1 ล้านคัน หากเปรียบเทียบความเสียหายที่เกิด
ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมโลกก็ถือว่า Audi ทำร้ายโลกทางอ้อมอย่างไม่น่าให้อภัยเท่าไรนัก
การออกมายอมรับผิดของ Audi ในครั้งนี้ถือเป็นการเดินรอยตาม Volkswagen ที่เคยประกาศไปก่อนหน้านั้นแล้วว่ามี
รถยนต์เจ้าปัญหาออกมาวิ่งบนโลกใบนี้แล้วถึง 11 ล้านคัน
เครื่องดีเซล 2.0 ลิตรเจ้าปัญหาถูกติดตั้งลงในรถยนต์ Audi รุ่น A1, A3, A4, A5, A6, TT, Q3 และ Q5 และในประกาศ
จะไม่ระบุถึงเครื่องดีเซล 3.0 ลิตรว่ามีปัญหาหรือไม่
ในเมื่อ Audi กล้าประกาศตนขนาดนี้แล้ว เราก็เชื่อว่าค่าย Skoda และ Seat ก็คงจะประกาศให้ผู้บริโภครับรู้ว่าตัวเองมีรถ
เครื่องเจ้าปัญหาขายออกไปแล้วกี่คันกัน หลังจากนั้นก็ต้องเร่งส่งวิศวกรปรับจูนเครื่องยนต์เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า
ต่อไป
และอีกข่าวเด็ดของวันนี้คือหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับหนึ่งแฉว่า Bosch เป็นผู้มีส่วนรู้ส่วนเห็นในการพัฒนาซอฟท์แวร์โกงค่าไอ
เสีย ซึ่งว่ากันว่ามีวัตถุประสงค์สำหรับใช้ในการทดสอบเท่านั้น หาใช่มาลวงหลอกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและประชาชน
แม้ Bosch เชื่อว่าตนเองน่าจะมีส่วนในการพัฒนาซอฟท์แวร์ลวงโลก แต่มันก็ถูกใช้เฉพาะการทดสอบภายในเท่านั้น แต่
ท้ายที่สุด Volkswagen ก็ดันใจกล้านำไปติดตั้งในรถยนต์ขึ้นสายการผลิตจริงเสียอย่างนั้น
ย้อนกลับไปปี 2007 Bosch ก็เคยเตือน Volkswagen แล้วว่าอย่าเล่นกับไฟด้วยการติดตั้งซอฟท์แวร์ดังกล่าวนี้ลงใน
รถยนต์ขึ้นสายการผลิตจริง แต่สุดท้าย Volkswagen ก็ปฏิเสธคำเตือนนี้ไป
เมื่อฉาวโฉ่ขนาดนี้ Volkswagen Group ก็ต้องเร่งสืบสวนวิธีการทำงานภายในบริษัทเป็นการใหญ่จนถึงขั้นต้องพักงาน
ผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาทั้ง Audi, Volkswagen และ Porsche เป็นการด่วนเนื่องจากทั้ง 3 คนมีส่วนรู้เห็นในการ
พัฒนาเครื่องดีเซลโกงค่ามลภาวะ
การเดินเกมครั้งนี้ยังไม่ถึง 1 ใน 4 ของกระดานทั้งหมด เชื่อว่าจะต้องมีดราม่าตามมาเรื่อย ๆ
ที่มา : Worldcarfans, bild.de, reuters.com