Honda CR-V เป็นหนึ่งในรถ SUV ที่ขายดีที่สุดของค่ายล่าสุดHondaอเมริกาเหนือได้เปิดตัว Honda CR-V รุ่นที่ 6 มาพร้อมเส้นสายที่เรียบง่ายแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควร แต่ทว่าด้านท้ายยังไม่ทิ้งกลิ่นอายไฟท้ายรูปตัว L นอกเหนือจากนั้นนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ Honda ต้องการให้รถหลายรุ่นหลังจากนี้มีงานออกแบบที่เรียบร้อยกว่าเดิมเพื่อจับกลุ่มตลาดลูกค้าได้กว้างขึ้น ตัวอย่างเช่น Honda Civic รุ่นล่าสุด Honda HR-V ทั้งเวอร์ชั่น อเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ที่ได้รับการออกแบบทั้งภายนอกและภายในตามแนวทางดังกล่าว

Honda คาดหวังยอดขายในรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid เป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขาย Honda CR-V รุ่นที่ 6 ทั้งหมดนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ยุคขุมพลังไฟฟ้าหรือยุคเปลี่ยนผ่านก่อนที่จะใช้กำลังไฟฟ้า 100% โดยในครั้งนี้ Honda ได้จัดกลุ่มพลัง Hybrid ให้อยู่ในรุ่น Sport เนื่องจากมีสมรรถนะที่สูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ

(รุ่น EX สีแดง)

Honda CR-V มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย 2 ขุมพลัง แบ่งเป็น EX และ EX-L ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ และ รุ่น Sport และ Sport touring เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid

Honda CR-V ใช้ไฟหน้าแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย โดยรุ่น EX และ EX-L มาพร้อมกระจังหน้าแบบตาข่ายสีดำตกแต่งด้วยขอบโครเมี่ยมกระจกมองข้างพ่นสีเดียวกับตัวรถ รุ่น EX และ EX-L ได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 10 ก้าน พ่นสีเงิน

(รุ่น Sport Touring สีน้ำเงิน)

Honda CR-V รุ่นที่ 6 ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ออกแบบมาสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นรถ SUV ที่มอบความสนุกสนานในการขับขี่ โดยคงไว้ซึ่งประโยชน์ใช้สอย สืบทอดจากทุกรุ่นก่อนหน้า

มิติตัวถัง:

  • ความยาว: 4,694มม.
  • ความกว้าง: 1,865 มม.
  • ความสูง: 1,691 มม.
  • ฐานล้อ: 2,700 มม.
  • ความกว้างล้อหน้า/หลัง: 1,610/1,625 มิลลิเมตร
  • ความจุห้องสัมภาระ: 745 ลิตร (2,166 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลัง)

(รุ่น Sport Touring สีน้ำเงิน)

ในรุ่น Sport และ Sport Touring ตกแต่งให้มีความดุดันมากกว่าด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าแบบตาข่ายและตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาอีกทั้งด้านท้ายยังมาพร้อมปลายท่อแบบสี่เหลี่ยมโดดเด่นพร้อมการตกแต่งชายกันชนหลังด้านล่างด้วยวัสดุสีดำเงาสปอยเลอร์หลังใช้วัสดุดำด้านในรุ่น Sport และวัสดุสีดำเงาในรุ่น Sport Touring

รุ่น Sport ได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 10 ก้าน พ่นสีดำ ในขณะที่รุ่น Sport Touring จะอัพเกรดเป็นล้ออัลลอย 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว พ่นสีดำเช่นเดียวกัน

(ภายในรุ่น EX )

ภายในใช้งานออกแบบเดียวกับ Honda Civic ด้วยคอนโซลหน้าส่งเตี้ยแบนกว้างเพิ่มทัศนวิสัยปลอดโปร่งให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ช่องแอร์ลายรังผึ้งอันเป็นเอกลักษณ์ คอนโซลหน้ามาพร้อมเส้นสายที่เรียบง่ายลดการรบกวนขณะขับขี่และลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ทางไกลได้ เบาะนั่งออกแบบใหม่คำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีคอนโซลกลางระหว่างเบาะคู่หน้าขนาดใหญ่พร้อมทีเก็บของความจุถึง 9 ลิตร

วัสดุหุ้มเบาะรุ่น EX และ EX-L จะต่างกัน ซึ่งรุ่น EX รุ่นเริ่มต้นจะได้เบาะหนังหุ้มด้วยผ้าสีดำหรือสีเทา พร้อมเบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยวัสดุสีดำ ในขณะที่รุ่น EX-L หุ้มเบาะหนังสีดำหรือสีเทา เพิ่มเบาะผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุ Piano Black

(ภายในรุ่น EX )

วัสดุหุ้มเบาะในรุ่น Sport ใช้เป็นผ้าสีดำ ในขณะที่รุ่น Sport Touring จะใช้หนังหุ้มสีดำหรือสีเทาพร้อมตบแต่งคอนโซลด้วยวัสดุเปียโนแบคโดยทั้งสองรุ่นจะใช้ผ้าบุหลังคาสีดำหอมเดินได้สีส้มที่ตัวเบาะคอนโซลพวงมาลัยและหัวเกียร์

พื้นที่วางขาของห้องโดยสารแถวหลังมีความยาวเพิ่มขึ้น 0.6 นิ้ว เบาะแถวที่สองสามารถปรับพนักพิงให้เอนเพิ่มได้ถึง 8 องศาเพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุเพิ่มขึ้นถึง 34 ลิตรในรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบและเพิ่มขึ้น 88 ลิตร ในรุ่น Hybrid เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับได้ในอัตราส่วน 60 :40

(ภายในรุ่น Sport Touring )

ระบบ Infotainment ในรุ่นเริ่มต้น EX และรุ่น Sport จะได้หน้าจอกลางขนาด 7 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay และAndroid Auto ในขณะที่รุ่น EX-L และ Sport Touring ได้รับการอัพเกรดเป็นจอขนาด 9 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay และAndroid Auto แบบไร้สาย รวมทั้งที่ชาร์จแบบ Wireless 15W เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่องเสียบ USB ด้านหน้า 2 จุด เป็นแบบ Type A 2.5A จำนวน 1 จุด และ Type C 3.0A อีก 1 จุด เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่ช่องเสียบ USB อีก 2 จุด สำหรับผู้โดยสารด้านหลังในรุ่น Sport และ รุ่น Sport Touring ทุกรุ่นจะได้จอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 7 นิ้ว

ในรุ่นท็อป Sport Touring ยังมาพร้อมเครื่องเสียงจาก Bose Premium audio system ลำโพงจำนวน 12 ตำแหน่งที่ได้รับการปรับแต่งภายใต้เทคโนโลยี Bose Centrepoint และ SurroundStage digital signal processing ช่วยให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่งในรถได้รับเสียงที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน

(ภายในรุ่น Sport Touring )

ขุมพลังและระบบส่งกำลัง

รุ่น EX และ EX-L

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.3 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-Injection ด้วยหัวฉีด Multi-point PGM-FI พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VTC และแปรผันระยะยกวาล์ว VTEC (Exhaust) กำลังสูงสุด 193 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด เพิ่มขึ้นจาก 243 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า หรือ 4 ล้อ Honda Real Time AWD พร้อมระบบIntelligent Control System

พร้อมโหมดการขับขี่ Drive Mode 3 รูปแบบ ได้แก่ ECON Normal และ Snow

(เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ)

รุ่น Sport และ Sport Touring

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ  DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 81.0 x 96.7 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ Generator และมอเตอร์ขับเคลื่อน พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion รวมกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ 207 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ที่ 0-2,000 รอบ/นาที

ให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า หรือ 4 ล้อ Honda Real Time AWD พร้อมระบบIntelligent Control System ในรุ่น Sport ในขณะที่รุ่น Sport Touring ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมความสามารถลากจู.กว่า 1,000 กิโลกรัม

พร้อมโหมดการขับขี่ Drive Mode 4 รูปแบบ ได้แก่ ECON Normal Snow และ Sport

(เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid)

ระบบกันสะเทือน

  • ระบบกันสะเทือนทั้งด้านหน้า McPherson Strut อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบกันสะเทือนทั้งด้านหลัง Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบห้ามล้อ

  • ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

ระบบบังคับเลี้ยว

  • Rack & Pinion พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Power Steering) พร้อมระบบแปรผันอัตราทดพวงมาลัย

ล้อและยาง

  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย 10 ก้าน พร้อมยางขนาด 235 / 60 R18 สีเงิน (สำหรับรุ่น EX และ EX-L สีดำ สำหรับรุ่น Sport)
  • ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลาย 5 ก้าน พร้อมยางขนาด 235 / 55 R19 (รุ่น Sport Touring)

ระบบความปลอดภัย

  • โครงสร้างตัวถัง Advanced Compatibility Engineering™ (ACE™)
  • ถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง
  • ระบบ Honda Sensing
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind spot information (BSI)
    • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
    • ระบบเคลื่อนตัวรถตามการจราจรจนถึงจุดหยุดนิ่ง Traffic Jam Assist (TJA)
    • ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ Low-Speed Braking Control
    • ระบบตรวจจับสัญญาณป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control (ACC) พร้อม Low-Speed Follow
    • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
    • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
    • ระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่เมื่อยล้า Driver Attention Monitor
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย Rear Seatbelt Reminder
  • ระบบตรวจสอบผู้โดยสารด้านหลัง Rear Seat Reminder

ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบใหม่ที่ลดอาการบาดเจ็บร้ายแรงบริเวณศีรษะและสมองระหว่างได้รับการชนด้านหน้าถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับออกแบบมาให้เป็นรูปส่งโดนัทเพื่อช่วยประคองศีรษะให้อยู่ในทิศทางที่เหมาะสมขณะได้รับแรงกระแทกด้านหน้าในขณะที่ถุงลมฝั่งผู้โดยสาร ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยกระจายแรงที่ปะทะกับศีรษะของผู้โดยสารด้านหน้าได้ดียิ่งขึ้น และเป็นครั้งแรกในรุ่น CR-V ได้รับการติดตั้งถุงลมนิรภัยหัวเข่าและถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง

ระบบ Honda Sensing ได้รับการอัพเดทด้วยกล้องหน้ามุมกว้างและเรดาร์รุ่นใหม่โดยกล้องหน้ามีมุมมองการมองเห็นถึง 90 องศา ในขณะที่เรดาร์รุ่นใหม่มีมุมการรับสัญญาณได้ถึง 120 องศา ทั้งสองชิ้นส่วนร่วมกันทำงานภายใต้ระบบป้องกันการชนระบบตรวจจับคนเดินถนนและสิ่งกีดขวาง รวมทั้งการตรวจจับเส้นประถนน ทั้งหมดนี้จะทำให้การทำงานของระบบต่างๆ มีความต่อเนื่องและลื่นไหลเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

Honda อเมริกาเหนือ เตรียมวางจำหน่าย 2023 CR-V ในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ (สิงหาคม-กันยายน 2022) ด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ (EX และ EX-L) ในขณะที่รุ่น Hybrid (Sport และ Sport Touring) จะตามมาในช่วงปลายปี 2022 สำหรับราคาจำหน่าย ทาง Honda จะเปิดราคาอย่าเป็นทางการเร็วๆ นี้

สำหรับความเคลื่อนไหวของการวางจำหน่ายในประเทศไทย ทาง Headlightmag จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา: Honda , Motor1