เมาไม่ขับแล้วจะกลับอย่างไรคงเป็นคำพูดติดปากของใครหลายคนที่คิดว่าเมานิดหน่อยขับรถได้ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
แต่กลายเป็นว่ามีผู้เสียชีวิตจากการเมาแล้วขับมากถึง 11,000 คนต่อปีในประเทศสหรัฐ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี
ตรวจสอบการวัดระดับแอลกอฮอลล์ในเลือดแบบใหม่ที่สามารถนำไปติดตั้งได้ในรถยนต์ทุกคันพร้อมเทคโนโลยีที่จะนำ
ความซวยมาให้คนเมาที่ยังดื้อแพ่งฝืนขับรถชนิดถึงที่อีกด้วย
โครงการถตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์คนขับเพื่อความปลอดภัยหรือThe Driver Alcohol Detection System for Safety
(DADSS) ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจระดับความเมาของผู้ขับขี่ที่สามารถนำไปติดตั้งในรถยนต์คันใดก็ได้และยังให้ผลลัพธ์
ที่แม่นยำอีกด้วย โดยที่ระบบนี้จะประกอบด้วยอุปกรณ์สองชิ้นคือระบบตรวจวัดจากลมหายใจ (Breathe-Based System)
และระบบตรวจวัดจากการสัมผัส (Touched-Based System)
ระบบตรวจวัดจากลมหายใจนั้นมีลักษะเป็นกล่องขนาดเล็กสามารถติดตั้งได้บนแผงประตูฝั่งคนขับหรือพวงมาลัยซึ่งมี
หน้าที่วัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจปกติไม่ต้องไปเป่ากันจนแทบหมดลมเหมือนเครื่องที่จ่าใช้กัน หลักการทำงาน
คือในตัวกล่องจะปล่อยคลื่น infrared ไว้ตรวจสอบโมเลกุล CO2 และ แอลกอฮอล์ที่ออกมาจากลมหายใจของคนขับซึ่ง
คลื่นแสงตัวนี้สามารถแยกความแตกต่างของโมเลกุลดังกล่าวได้อย่างแม่นยำ
ระบบตรวจวัดจาการสัมผัสจะติดตั้งอยู่ที่ปุ่ม Push Start หรือ หัวเกียร์ซึ่งมีการทำงานคล้ายคือใช้ infrared มาตรวจสอบ
ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเมื่อปลายนิ้วมาสัมผัสตัวเครื่องในชั่วเสี้ยววินาที โดยที่แอลกอฮอล์จะมีค่าจำเพาะของการ
ดูดซับแสง infrared ซึ่งระบบจะตรวจพบได้ทันทีว่าคนขับเมาหากมีค่าดูดซับแสงดังกล่าว
เมื่อระบบใดระบบหนึ่งตรวจเจอว่าคนขับมีปริมาณในเลือดเกินที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมได้ว่าจะให้มี
limit การปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเท่าใด ระบบจะไม่ยอมให้มีการ start รถซึ่งทำได้เพียงแค่การใช้ระบบไฟและ
เครื่องปรับอากาศเท่านั้น แต่ถ้าคิดว่าแค่เอาคนที่ไม่เมามา start รถให้ก็ขับกลับบ้านได้แล้วนั้น
ไม่สามารถนำมาโกงระบบนี้ได้
เนื่องจากระบบจะทำการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาและถ้าหากตรวจเจอว่าคนขับเมาเมื่อใด ระบบจะส่งสัญญาณเตือน
ซึ่งถ้าคนขับยังไม่ยอมจอดและดื้อแพ่งขับต่อไป ความซวยก็จะบังเกิดชนิดที่ไม่ต้องขับไปเข้าด่านเพราะระบบจะส่ง
ตำแหน่งปัจจุบันของรถยนต์ไปให้ตำรวจท้องที่พร้อมกับทิศทางที่รถกำลังมุ่งหน้าไปในทันที
ในปัจจุบันระบบดังกล่าวได้ติดตั้งในรถโรงเรียนหลายคันของรัฐ Ontario ของประเทศ Canada เรียบร้อยแล้วซึ่งนับว่า
ใช้งานง่ายไม่จำเป็นต้องหยุดรถเพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์เหมือนเวลาเข้าด่าน ซึ่งนี่อาจจะเป็นข่าวร้ายของ
คอทองแดงทั้งหลายที่ชอบขับรถเนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าระบบนี้อาจถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์
รุ่นใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
ถ้ามีการใช้ระบบนี้อย่างจริงจัง คงมีโอกาสสูงที่จะได้เห็นคอทองแดงจอดรถนอนกันตามสถานบันเทิงเพราะอย่างน้อย
ระบบยังไม่ใจร้ายขนาดตัดแอร์ เพราะ ถ้าคนขับเอารถมาและเมาจริงๆยังพอเปิดแอร์นอนรอจนหายเมาหรืออาจจะ
นำไปสู่ช่องทางการหารายได้ของช่างหัวใสที่สามารถต่อกล่องเพื่อมาหลอกระบบนี้ก็เป็นได้
ที่มา : autoevolution