Skoda Superb รุ่นปัจจุบันได้วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2015 และได้รับการปรับโฉม Minorchange ไปเมื่อปี จนถึงวันนี้ก็นับว่าเป็นเวลาอันสมควรแล้วที่รุ่นใหม่หมดจด จะเข้ามารับหน้าที่สานต่อรถซีดานและแวกอนคันโต พิกัด D-segment ที่หลงเหลืออยู่ไม่มากนักในตลาดปัจจุบัน

กระทั่งได้มีการจับภาพรถทดสอบที่พรางตัวเต็มพิกัดของ Superb รุ่นต่อไป ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2023 นี้ มาพร้อมงานออกแบบที่หวือหวามากกว่ารุ่นปัจจุบัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายตามฉบับ Skoda ซึ่งภาพชุดนี้ถูกถ่ายได้ที่ประเทศออสเตรีย

คาดการณ์ได้ว่า Superb จะใช้งานออกแบบกระจังหน้าซี่แนวตั้งร่วมกับน้องในแบรนด์ ตั้งแต่ Scala Kamiq และ Octavia จนไปถึงรถ EV อย่าง Enyaq iV ด้วยแนวคิด Modern Solid ที่ได้นำเสนอไปเมื่อ ปี 2020 ที่จะนำกระจังหน้ารูปทรง 6 เหลี่ยมไปใช้กับรถทุกรุ่นในค่าย ในขณะที่ด้านท้ายใช้ไฟท้าย LED C Shape ทรงเรียวตามสมัยนิยม

ทางเลือกด้านขุมพลังยังคงไว้ซึ่งเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่มีการดันรุ่น Plug-in hybrid มากขึ้น ภายใต้ชื่อ iV plug-in hybrid ทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน MQB Platform ซึ่งเป็น Platform สหกรณ์ใช้กันในหมู่ Volkswagen group กับรถตัวถัง C-D Segment

ภายในจะยังคงใช้งานออกแบบที่เรียบง่าย คอนโซลหน้าโดดเด่นด้วยจอกลางขนาดใหญ่ซึ่งอาจยกมาจากรุ่นอื่นในค่าย พร้อมจอ Head-up display จอมาตรวัดผู้ขับขี่แบบ Full digital พร้อมออฟชั่นอำนวยความสะดวกตามสไตล์ Skoda ปิดท้ายด้วยเบาะนั่งเน้นความสบายตามหลัก Ergonomics ที่เริ่มใช้กับ Octavia เป็นครั้งแรก

ท่ามกลางความนิยมรถ SUV ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถอย่าง Volkswagen Passat และ Skoda Superb ที่มาในรูปแบบตัวถังซีดานและแวกอน กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก โดยเฉพาะ Volkswagen ที่ได้ถอด Passat ออกจากตลาดอเมริกาเหนือเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากประสบปัญหายอดขายตกต่ำอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่ Passat รุ่นต่อไปอาจมีเฉพาะตัวถังแวกอน ทำให้ Skoda Superb ต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในเชิงการแข่งขัน ด้วยการย้ายการผลิตจากโรงงานที่เมือง Kvasiny ไปยังเมือง Bratislava สาธารณรัฐเช็ก

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือระบบส่งกำลัง ที่มีแนวโน้มว่าเกียร์ธรรมดากำลังจะถูกปลดประจำการในรถขนาดกลางเพิ่มขึ้น หลังจากที่ Volkswagen ได้ประกาศแล้วว่า Passat รุ่นต่อไปจะไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก เป็นที่น่าจับตาว่า Skoda จะนำแนวทางนี้ไปใช้ด้วยหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น Skoda ยังตั้งเป้าการวางจำหน่ายรถยนต์ที่พ่วงขุมพลังไฟฟ้าให้ได้ทั้งหมด 10 รุ่น ภายในปี 2025 นี้ ซึ่ง มีจำนวน 6 รุ่น ที่เป็นรถ EV และ4 รุ่น เป็น Plug-in hybrid

ที่มา: Automedia