หลังจากที่แบรนด์ Neta เริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทย ด้วยการเข้ามาทำตลาดรถ EV จากแดนมังกร เริ่มด้วยรุ่นเล็กของค่ายอย่าง Neta V ที่คาดการณ์ว่าจะมีราคาจำหน่ายในช่วง 5xx,xxx บาท และกำลังอยู่ในขั้นตอนจัดตั้งเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกระจายตามภูมิภาคต่างๆ

เมื่อย้อนดูจุดเริ่มต้นของ Neta ในปี 2018 แบรนด์รถ EV ที่อยู่ภายใต้บริษัท Hozon Auto ซึ่งนอกจาก Neta V แล้ว ยังมี Neta U pro ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด แต่ทั้ง 2 โมเดลนี้ถือเป็น SUV ที่สร้างมาเพื่อให้คนเข้าถึงง่ายและมีขนาดตัวรถที่ไม่ใหญ่จนเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น Neta ยังกวาดยอดขายในเดือนเมษายน 2022 ไปกว่า 8,813 คัน ซึ่งมากกว่า NIO และ Tesla (ยอดขายเฉพาะในประเทศจีน) เสียอีก ด้วยการออกเคมเปญชาร์จไฟฟรีตามจุกที่มีไว้ให้บริการ หรือ ฟรีชุดชาร์จไฟบ้าน เมื่อลูกค้าซื้อรถใหม่กับทาง Neta

 

ในขณะที่ Neta S มาในรูปแบบของรถซีดานหรูที่เกิดมาเพื่อชนคู่แข่งอย่าง XPeng P7 NIO ET5 และบรรดารถ EV ซีดานที่ทยอยเปิดตัวกันอย่างไม่ขาดสายในตลาดประเทศจีน Neta S จะมีให้เลือกทั้งแบบ EV ปกติ และ EREV หรือ EV พ่วงเครื่องยนต์ปั่นไฟ (Range extender) ที่กำลังเป็นที่นิยมจากบรรดาค่ายรถจีน เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้รถมีพิสัยการเดินทางเพิ่มขึ้นประมาณ 100-200 กิโลเมตรเป็นอย่างน้อย

การเผยโฉมอย่างไม่เป็นทางการของ Neta S จัดขึ้นที่ Guangdong-Hong Kong-Macao Auto Show ภายนอกมาพร้อมเส้นสายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแมว พร้อมมือเปิดประตูแบบซ่อนในตัวถัง เส้นหลังคาลาดเอียงตามแนวทางของรถซีดานยุคใหม่

 

ภายในอ้างอิงจากรูปที่ Neta ได้โพสต์ลงสื่อโซเชียลในประเทศจีน จะพบว่ามีการติดตั้งจอกลางแนวตั้งขนาดใหญ่ถึง 17.6 นิ้ว พร้อมจอมาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่และจอแสดงข้อมูลและระบบ Infotainment สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า การตกแต่งใช้วัสดุไม้และหนังเพิ่มความหรูหรา พร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วย Alcantara ไฮไลท์อยู่ที่ระบบเครื่องเสียงที่ติดตั้งลำโพงจำนวน 21 ชิ้น กับกำลังขับ 1,216 W

การจัดวางขุมพลังอยู่บนพื้นฐานของ Shanhai platform ที่ออกแบบโดยบริษัทแม่ Hozon Auto ซึ่งเป็น Modular platform ทำให้สามารถปรับระยะฐานล้อได้ระหว่าง 2,750-3,100 มิลลิเมตร ข้อมูลด้านมิติตัวรถของ Neta S ยังไม่ถูกเปิดเผยในขณะนี้ จนกว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

(EREV version)

(EV version)

ระยะทางสูงสุดที่วิ่งได้ของรุ่น EREV อยู่ที่ประมาณ 1,000 กิโลเมตร ในขณะที่รุ่น EV ปกติให้ระยะทางสูงสุดที่ 710 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และด้วยมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง Neta จึงเคลมอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าไว้ที่ 12 kWh/100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าทำให้เกินหน้าเกินตาค่าเฉลี่ยโดยปกติ

อีกทั้งยังจัดเต็มด้านระบบความปลอดภัย ด้วยการติดตั้ง กล้องจำนวน 13 ตำแหน่ง เรดาร์ Ultrasonic อีก 12 ตำแหน่ง เรดาร์วัดระยะอีก 5 ตำแหน่งและ LIDAR 2 ตำแหน่ง ทั้งหมดนี้ควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการของ Huawei MDC smart platform

รายละเอียดเพิ่มเติมต้องรอทาง Neta เปิดตัว Neta S อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ที่มา: Carnewschina