เป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งสำหรับค่ายรถยนต์สัญชาติอเมริกันอย่าง Ford ที่ระยะหลัง

มานี้ มีรถยนต์รุ่นใหม่ทยอยเปิดตัวอย่างมากมาย และแต่ละรุ่นนั้น ก็เป็นที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างมาก

อย่างเช่น Ford Fiesta รถยนต์ขนาด sub-compact ที่กวาดยอดขายอย่างถล่มทลายไปแล้วในยุโรป และมา

คราวนี้ ก็ถึงทีของพี่น้องร่วมค่ายในรุ่นอื่นกันบ้าง

 

 

เริ่มจากรุ่นแรก กับบรรดากองทัพของรถยนต์ขนาดคอมแพคท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทวีปยุโรป โดยเฉพาะ

ในประเทศอังกฤษที่ขายดีเป็นเททิ้งในรุ่นที่แล้วกับ Ford Focus มาคราวนี้ มาพร้อมกับการเปลี่ยนโฉมใหม่ตั้งแต่

หัวจรดท้าย Full Modelchange ทั้งคัน ในแบบตัวถังทั้งหมด 3 ตัวถัง ได้แก่ แฮ็ตช์แบ็ค 5 ประตู ซีดาน 4 ประตู

และแบบแวกอน 5 ประตู และสำหรับเครื่องยนต์ที่ประจำการใน Ford Focus ทั้งสามตัวถัง จะเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้

เทคโนโลยีใหม่ EcoBoost Turbocharged ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังที่แรงสะใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยัง

คงความประหยัดน้ำมันเอาไว้ และยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

 

 

นอกจากจะมี Ford Focus รุ่นปกติแล้ว ก็ยังไม่พลาดที่จะมีตัวแรงในร่างของ Focus ในชื่อรุ่น Focus ST อีกด้วย

โดยเป็นการนำเอา Ford Focus รุ่นแฮ็ตช์แบ็ค 5 ประตู มาตกแต่งใหม่ในสไตล์สปอร์ตพร้อมตัวถังสีส้มอันสุดแสน

จะจี๊ดจ๊าดไม่เกรงใจสายตาชาวบ้าน ในส่วนของเครื่องยนต์ที่นำมาประจำการ จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ

16 วาล์ว 2.0 ลิตร EcoBoost ที่ให้พละกำลังมากถึง 250 แรงม้าเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถึงจะเปลี่ยนโฉมใหม่

แต่ก็ยังไม่ทิ้งความแรง

 

 

ยังไม่หมดแค่นั้น Ford ยังนำรถยนต์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่นมาจัดแสดง ได้แก่ Ford Mondeo พี่ชายใหญ่ของ Focus ซึ่ง

ขนมากันทั้งตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแวกอน 5 ประตู โดย Ford Mondeo ใหม่นี้ ได้เคยเผยโฉมสู่

สาธารณชนไปแล้วที่งาน Moscow International Automobile Salon ที่ผ่านมา นอกจาก Mondeo แล้ว ยังมี

รถยนต์ MPV รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี อย่าง Ford S-Max และ Ford Galaxy มาจัดแสดงในงานนี้ด้วย

 

 

และรถยนต์แบบ MAV หรือ Multi Activity Vehicle อีกสองรุ่นที่นำมาจัดแสดงภายในงานอย่าง Ford C-Max

และ Grand C-Max เป็นรถรุ่นพิเศษในชื่อของ Titanium โดยเครื่องยนต์ที่นำมาประจำการ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน

4 สูบ 16 วาล์ว 1.6 ลิตร EcoBoost ที่ให้พละกำลังมากถึง 180 แรงม้า และพลาดไม่ได้กับเครื่องยนต์ดีเซล

4 สูบ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Duratorque TDCi ที่ให้อัตราเร่งที่จี๊ดจ๊าดสะใจและยังพกความประหยัดมาด้วย ในแบบ

ฉบับของเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ 

 

 

และอีกสองรุ่นสุดท้ายที่ Ford ได้โอกาสปล่อยหมัดเด็ดออกมา กับรถยนต์ที่ได้วางจำหน่ายในทวีปยุโรปเป็นครั้ง

แรกกับ Ford Mondeo ECOnetic และ Ford Ka ใหม่ โดยทั้งสองรุ่นนี้ พกเทคโนโลยีใหม่ที่ทาง Ford ได้คิดค้นขึ้น

มา ซึ่งระบบที่ว่านี้ก็คือ ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ เพื่อการประหยัดน้ำมันในยามที่ขับขี่ในเมือง และ

อุปกรณ์นี้ ก็จัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์สองรุ่นนี้อีกด้วย

 

 

สุดท้ายกับการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อันสุดแสนจะภูมิใจของ Ford ได้แก่ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ EcoBoost 

Turbocharge Direct Injection ใหม่ ที่ให้พละกำลังที่แรงและประหยัดน้ำมัน โดยเป็นเครื่องยนต์หลักในการทำ

ตลาด เครื่องยนต์ดีเซล Duratorque TDCi ที่ให้ความแรงและประหยัดน้ำมันในแบบฉบับของเครื่องยนต์ดีเซล

เทคโนโลยี PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ Hybrid แบบ Plug-in โดย ทาง Ford 

ได้มีแผนการที่จะนำเครื่องยนต์นี้ ไปประจำการในรถยนต์ Ford C-Max ในอนาคตอีกด้วย เทคโนโลยี Eco Mode

และเทคโนโลยี Smart Regenerative Charging ที่ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่

ชั้นบรรยากาศ

เรียกได้ว่ามาทั้งที ก็ต้องประกาศศักดาให้มันยิ่งใหญ่ไปเลยกับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของโลกอย่าง Ford

ที่มาคราวนี้ถึงกับกรีฑาทัพรถยนต์ทุกรุ่นดาหน้าออกมาท้าชนคู่แข่งกันให้ราบคาบกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว

————————————————-//————————————————-

source:Ford Motor Company