Volkswagen Tiguan ถือเป็นรถยนต์ Volkswagen ยุคใหม่อีกรุ่นหนึ่งที่เป็นหัวหอกสำคัญในการเจาะตลาด
ยุโรปและอเมริกา ที่เพิ่มความนิยมรถยนต์ยกสูงมากขึ้น เมื่อครั้งเปิดตัวโฉมแรกในปี 2007 ถือว่า Volkswagen
กล้าฉีกแนวมาเล่นตลาดครอสโอเวอร์ขนาดกลาง และกลายเป็นว่าได้รับความนิยมในจีนแผ่นดินใหญ่ไม่น้อย
และในบ้านเราก็เคยนำรุ่นดีเซลเข้ามาขายในระยะสั้น จำนวนไม่กี่ร้อยคัน
สำหรับปี 2015 Volkswagen พร้อมรุกตลาดครอสโอเวอร์หนักกว่าเดิม เพราะกลายเป็นตลาดที่ร้อนแรงทั่วโลก
และมีคู่แข่งเดินหน้าเปิดตัวออกมามากมาย ด้วยการเผยโฉม 2016 Volkswagen Tiguan ครั้งแรกในงาน
Frankfurt Motor Show 2015
รูปลักษณ์ภายนอก แม้มีการพรีวิวด้วยรถต้นแบบ Volkswagen Cross Coupé GTE Concept มาแล้ว
แต่กลายเป็นว่าคันขายจริง กลับใช้เส้นสายจากรถต้นแบบน้อยมาก ซึ่งไม่แน่ใจว่า Volkswagen อาจเก็บ
งานออกแบบที่ดูเร้าใจนั้น ไว้ใช้กับ Crossover Coupé บนพื้นฐาน Tiguan ที่จะเปิดตัวตามมาด้วยหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ภายนอกเต็มไปด้วยเส้นสายบึกบึน แต่ไม่แข็งกร้าวจนเกินไป ที่สำคัญ คือการลบความโค้งมน
จากโฉมก่อนออกไปหมดจด ทำให้เมื่อมองครั้งแรกต้องถามว่า นี่เรากำลังดูครอสโอเวอร์จาก Volkswagen
หรือค่าย BMW กันแน่?
ด้านหน้ามาพร้อมลูกเล่นงานออกแบบ Volkswagen ยุคใหม่ ออกแบบให้โคมไฟหน้าและกระจังหน้า
เป็นดีไซน์ที่ต่อเนื่องกัน พร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ และไฟตัดหมอกทรงเหลี่ยม เส้นสายด้านข้างเน้น
เส้นเอวคมชัด และดีไซน์กรอบกระจกด้านข้างแบบมี Hoffmaster Kink คล้าย BMW ส่วนด้านท้าย
ได้รับอิทธิพลจาก Cross Coupé GTE ไปเต็มๆ ใช้โคมไฟท้ายแบบ LED พร้อมชายกันชนล่างทรงบึกบึน
โดยรวมแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนลูกผสมระหว่าง Tiguan โฉมก่อน เข้ากับ Passat โฉมล่าสุดไม่น้อย
สำหรับคนที่มองหาลุคสปอร์ต สามารถเลือกรุ่น Tiguan R-Line ที่จะถูกตกแต่งภายนอกด้วยชุดแอร์โรพาร์ท
และล้อแม็กลายใหม่ แต่ไม่มีการดัดแปลงความแรงใดๆของเครื่องยนต์
มิติตัวถัง ยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อน 60 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 30 มิลลิเมตร แถมมีระยะฐานล้อหน้า-หลังยาวขึ้น 77 มิลลิเมตร
(อยู่ที่ 2,681 มิลลิเมตร) แต่กลับมีน้ำหนักเบาลงถึง 50 กิโลกรัม ทั้งนี้ เป็นผลพวงจากการเปลี่ยนมาใช้
แพลตฟอร์ม MQB ร่วมกับพี่น้อง Volkswagen
จากการใช้แพลตฟอร์ม MQB นี่เอง ทำให้ Tiguan ใช้ขุมพลังสหกรณ์หลากระดับแรงม้าของ Volkswagen
ได้เต็มที่ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ TSI แบบ 4 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร 125 และ 150 แรงม้า, 1.8 ลิตร 180 แรงม้า
และขนาด 2.0 ลิตร 220 แรงม้า
ส่วนขุมพลังดีเซล TDI แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1.6 ลิตร 120 แรงม้า และขนาด 2.0 ลิตร 150, 190 และ 240 แรงม้า
ถ้าสังเกตกันดีๆ นี่คือเซ็ตขุมพลังเดียวกันกับใน VW Passat โฉมล่าสุดเลย โดย Tiguan โฉมใหม่ ออกแบบให้ใช้
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นหลัก แต่ก็จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา 4Motion ให้เลือกใช้ด้วย
ซึ่งถูกปรับปรุงใหม่ให้ลุยได้โหดกว่ารุ่นก่อน อีกทั้งตัวรถยังปรับปรุงให้มีกำลังฉุดลากน้ำหนักได้สูงสุดถึง 2,500 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสาร ไม่ได้นำการออกแบบจากเวอร์ชั่นต้นแบบมาใช้เลย แต่กลับยึดมั่นกับแนวทางการออกแบบ
จาก VW Golf เน้นการแบ่งโซนควบคุม และช่องแอร์ที่ยังคงไม่ออกแบบให้เป็นแนวนอนยาวกลมกลืนไปกับ
แผงแดชบอร์ดเหมือนที่เราเห็นกันใน Passat
อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับภายในห้องโดยสาร ประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสแบบขาว-ดำ ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งจะมีออพชั่น
หน้าจอสัมผัสสีขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto
รวมถึงเซอร์วิสอื่นๆ เช่น Mirror Link นอกจากนี้ในรุ่น 4Motion ยังได้ปุ่มปรับการขับขี่ตามสภาพถนนได้อีกด้วย
คราวนี้ Volkswagen ไม่ส่ง Tiguan ตัวถังเดียวแต่ทำตลาดทั่วโลก แต่เตรียมเวอร์ชั่นฐานล้อยาว เพิ่มที่นั่งเป็น 7 ที่นั่ง
สำหรับการจำหน่ายในตลาดที่ต้องการการโดยสารที่มากกว่าปกติ เช่น จีน และ สหรัฐอเมริกา
2016 Volkswagen Tiguan เตรียมลุยตลาดยุโรปบ้านเกิดกันก่อน ก่อนจะเริ่มส่งออกไปจำหน่ายในแดนมะกัน
และเอเชีย สำหรับบ้านเรา ต้องลุ้นว่าเมื่อ Volkswagen เข้าไทยมาเต็มตัว จะได้อานิสงส์ประกอบจำหน่ายในบ้านเรา
ด้วยหรือไม่ แต่คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีข้างหน้า จนกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
ที่มา : Volkswagen